นาย Alex Krüger นักเทรดเงินดิจิทัลที่มีชื่อเสียงและเป็นผู้ก่อตั้ง Aike Capital ทวีตเมื่อวันที่ 1 มกราคมว่าความสัมพันธ์ของ บิทคอยน์ และ ทองคำ ต้องการการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด
ธนาคารกลาง (Central banks – CB) จะถือ bitcoin ในไม่ช้าก็เร็ว นาย Krüger กล่าวว่า เหตุผลนั้นเกี่ยวข้องกับทองคำและวิธีปฏิบัติของธนาคารกลาง
ในทวีต นาย Krüger แสดงให้เห็นว่าความต้องการของทองคำเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในปี 2020
นาย Krüger เริ่มต้นด้วยการแสดงให้เห็นว่า ความต้องการทองคำของธนาคารกลางยังคงทรงตัวในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามมันลดลงอย่างมากในปี 2020 นอกจากนี้เขายังดึงความสนใจไปที่ประเด็นที่ว่า การเพิ่มสภาพคล่องทำให้ราคาทองคำสูงขึ้น
แล้วใครจะซื้อทอง? โดยไม่ได้ลงรายละเอียดว่าเพราะอะไรใดธนาคารกลางต่างๆ จึงลดการบริโภคทองคำลงมากนัก นาย Krüger ชี้ให้เห็นว่านักลงทุนสถาบัน ยังเป็นตัวหลักในความต้องการบิทคอยน์ในปี 2020 ในทางกลับกัน บรรดาเครื่องประดับมีค่าต่างๆกลับลดลงเนื่องจากความต้องการสินค้าดังกล่าวมีความอ่อนไหวต่อราคา
ครูเกอร์ตั้งสมมติฐานผ่านทวีตของเค้า
“หาก”ธนาคารซื้อบิทคอยน์แทนทองคำเพียง 5% นั่นจะเพิ่มความต้องการ crypto ขึ้นมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ นาย Krüger มองว่าการเข้ามาของธนาคารกลางในครั้งแรกเป็นเหตุการณ์ที่มีนัยสำคัญบางอย่าง
สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currencies – CBDC) นั้นยังอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่จุดประสงค์ของ CBDC ส่วนใหญ่ที่อยู่ระหว่างการทดสอบคือการสร้างวิธีการทำธุรกรรมที่เป็นไปได้
ตามรายงานของ BeInCrypto จีนกำลังทดสอบเงินหยวนดิจิทัลสำหรับการซื้อรายย่อยแล้ว การเปิดตัวนำร่องสำหรับการโอน P2P เริ่มในเดือนธันวาคม จนถึงขณะนี้ธนาคารกลางยุโรปและอื่น ๆ ก็ประกาศเช่นเดียวกัน “สกุลเงินดิจิทัลช่วยเพิ่มความสามารถในการทำธุรกรรมของเรา”
อย่างไรก็ตาม Bitcoin ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่มีมูลค่ามากกว่าสิ่งอื่นใด ตลาดที่คึกคักปี 2020 ไม่ได้เกี่ยวกับการซื้อพิซซ่าหรือกาแฟด้วย bitcoin อีกต่อไป แต่เป็นความสนใจที่เพิ่มขึ้นในการคาดการณ์ไว้ในระยะยาวโดยนักลงทุนสถาบันและองค์กรเช่น GrayScale และ MicroStrategy
นาย Krüger พูดถูกเกี่ยวกับธนาคารกลางที่ลงทุนใน bitcoin ในห้าปีหรือไม่? หรืออาจจะเป็นปีนี้? นักลงทุนสถาบันใช้เวลาศึกษาในการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Cryptocurrency เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้ว่าบิทคอยน์จะมีเสน่ห์เพียงพอที่จะดึงดูดธนาคารกลางได้หรือไม่
ที่มา: beincrypto.com
ช่องทางการติดต่อ
Facebook, Twitter, Google+, Telegram, Blockdit
0
0
Facebook Comments