นาย John Paulson หรือผู้ที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับตัวเอง ด้วยการเปิด short พันธบัตรสินเชื่อในช่วงวิกฤตซับไพรม์ ที่ส่งกระทบต่อสหรัฐฯในปี 2008-2009 ได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับทาง Bloomberg TV ว่าเขาไม่แนะนำให้ใครลงทุนใน crypto เนื่องจากมันเป็นมากกว่าแค่ฟองสบู่
ในช่วงวิกฤตซับไพรม์ เมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว Paulson สามารถทำเงินได้ถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยการเปิด Short พันธบัตรสินเชื่อ แต่ตอนนี้เขาอายุ 65 ปีแล้ว และคาดว่าการพิมพ์ USD ที่เพิ่มขึ้นในขณะนี้กำลังส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อสูงเกินกว่าที่ใครหลายคนจะคาดเดาได้ และเชื่อว่าทองคำจะสามารถทำหน้าที่เป็นตัวป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้ในอนาคต
แต่สำหรับ cryptocurrencies เขากล่าวว่า ในที่สุดพวกมันจะพิสูจน์ว่าตัวเองว่าเป็น “สิ่งที่ไร้ค่า” เขากล่าวในระหว่างสนทนากับนาย Rubenstein ผู้ร่วมก่อตั้ง Carlyle Group ของ Bloomberg TV
หลังจากที่สินทรัพย์ของเขาลดลงเหลือมูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์ดอลลาร์ในปี 2019 จากเกือบ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2011 เขาก็ได้เปลี่ยนกองทุนเฮดจ์ฟันด์ Paulson & Co. Inc. ให้กลายเป็นสำนักงานของครอบครัว ซึ่งส่วนใหญ่จัดการกองทุนของเขาเอง
หลังจากที่เขาทำเงินได้หลายพันล้านดอลลาร์ Paulson ก็หันมาซื้อทองคำและทองคำฟิวเจอร์สเป็นจำนวนมาก แม้ว่าปัจจุบันราคาทองคำมีค่าจะลดลงเหลือ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ก็ตาม
Crypto เป็น “อุปทานที่จำกัดไม่มีอะไรมากกว่านั้น”
Paulson ได้เรียก cryptocurrencies ว่าเป็นฟองสบู่และกล่าวเสริมด้วยว่า มันเป็นสิ่งที่มี “อุปทานจำกัดและไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น” โดยเขาอ้างว่า คริปโตนั้นไม่มีมูลค่าที่แท้จริง
ในที่สุดพวกมันก็จะกลายเป็นสิ่งไร้ค่า เขาเชื่อสนิทใจว่า ทันทีที่สภาพคล่องหมดไปหรือความอุดมสมบูรณ์หมดลง พวกมันก็จะมูลค่าลดลงเหลือศูนย์
Facebook Comments