Decentralized liquidity network อย่าง Bancor มีแผนที่จะรวม blockchain ต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกันใน Network เดียว. ผู้ร่วมก่อตั้ง และ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจ Galia Benartzi เชื่อว่า centralized cryptocurrency exchanges กำลังล้มเหลวในด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรม
“อะไรที่คุณคาดหวังเกี่ยวกับ Blockchain แบบใหม่ คุณกำลังจะได้เห็นมันใน
ไตรมาสที่จะมาถึง. เราจะประกาศแผนการบูรณะครั้งใหญ่และหวังว่าเราจะสามารถทำได้มันได้สำเร็จ เพราะว่ามันขึ้นอยู่กับลักษณะ Blockchain นั้น ๆ ด้วย” Benartzi อธิบายต่อ Cryptonews.com
โปรเจคนี้อ้างว่าจะแก้ปัญหาสภาพคล่องด้วย smart contract ซึ่งมันจะเป็นทางออกของปัญหา. เนื่องจากโปรเจคนี้เป็นโปรเจคที่ไม่แสวงหาผลกำไร ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการลิสเหรียญ , ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม และจะไม่แสวงหาผลประโยชน์ใด ๆ บน exchange หรือการแปลงมูลค่าโทเค็น. การระดมทุน ICOในเดือนมิถุนายน 2017 Bancor ระดมทุนได้ Ether เป็นมูลค่ากว่า 150 ล้านดอลลาร์ บริษัทจึงยังไม่มีแผนที่จะระดมเงินทุนเพิ่มในช่วงเวลานี้.
“ Cryptocurrency exchanges ถูกสร้างขึ้นโดยมีสิ่งจูงใจเพียงเรื่องเดียว คือ ดีที่สุด , สุดยอดที่สุด , ใหญ่ที่สุด และเป็นที่รู้จักมากที่สุด “ นั่นหมายความว่ายังมีนวัตกรรมใหม่ ๆ อีกมหาศาลที่ถูกล็อคเอาไว้ เนื่องจากยังไม่สามารถ list โปรเจคเหรียญขึ้นบน exchange ได้ ”
โดยปกติแล้วค่าใช้จ่ายใน list เหรียญขึ้น exchange อาจอยู่ในเรทราคาไม่กี่พันดอลลาร์ไปจนถึงตัวเลขหกหลัก อย่างไรก็ตามบาง exchange เช่น Binance ได้อ้างว่าในบางกรณีพวกเขาจะลิสเหรียญโปรเจคให้ฟรี แต่พวกเขาก็เข้มงวดมากในการตรวจสอบโปรเจคก่อนที่จะ list เหรียญและเป็นที่รู้กันดีว่าพวกเขาจะ delist โปรเจคเหรียญอย่างรวดเร็วหากโปรเจคนั้น ๆ ไม่ตรงไปตามมาตรฐานของพวกเขา
ผลกระทบต่อ Exchange
“เราไม่เพียงแต่สร้างผลกระทบต่อ exchange เท่านั้น แต่จะสร้างผลกระทบต่อวิธีการทั้งหมดที่ exchange จัดการอยู่” เธอชี้ให้เห็นว่ามีปัญหามากมายจากวิธีการทำงานของ exchange เช่น การปลอมปริมาณวอลุ่ม , การปั่นราคา , ปัญหาสภาพคล่อง , ราคาที่ผันผวน , การปั๊มราคา-เทขาย และอื่น ๆ อีกมากมาย
เธอกล่าวเสริมว่า “เราไม่จำเป็นจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับใครก็ตามไม่ว่าจะเป็น crypto exchange หรือ regular exchange. โดย smart contract นั้นสามารถทำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพน่าเชื่อถือและปลอดภัย และ contract ของเรานั้นไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าธรรมเนียม” เธอกล่าว
ปัจจุบัน Bancor เป็นบ้านของ token หลายร้อยโปรเจค ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่บนรากฐานของ Ethereum หรือ EOS. ล่าสุดพวกเขาเพิ่งได้เปิดตัว Wallet แบบครบวงจรสำหรับทั้งสองแพลตฟอร์มและโทเค็น ซึ่งมันช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแลกเปลี่ยน Ethereum-based token กับ EOS-based ได้ โดยไม่จำเป็นพึ่งบุคคลที่สามอย่างเช่น exchange
บทเรียนจากการ Hack
ในเดือนกรกฎาคม 2018 Bancor ตกเป็นเหยื่อของการ Hack ซึ่งตีมูลค่าเป็นเงินจำนวน 23.5 ล้านดอลลาร์ในเวลานั้น อย่างไรก็ตามพวกเขาสามารถ freeze เงินเอาไว้และนำมันกลับคืนมาได้ประมาณ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยปัจจุบันการสืบสวนยังคงดำเนินต่อไป
แม้ว่า Benartzi จะไม่สามารถบอกเราได้มากนักเกี่ยวกับกระบวนการสอบสวน เนื่องจากกฏข้อบังคับทางด้านกฎหมาย แต่เธอสามารถบอกได้ว่าหลังจากการ Hack ในครั้งนั้น บริษัทได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก. “ เราได้ทำการเปลี่ยนแปลงโครงการภายในองค์กรมากมายในแง่ของวิธีของการทำงานและเราคิดว่ามันเป็นบทเรียนของการอยู่ในอุตสาหกรรมใหม่นี้อย่างสมบูรณ์”
_____
กราฟราคา BNT :
ช่องทางรับข้อมูลข่าวสาร Crypto New : Facebook , Tweet ,Telegram
Facebook Comments