Binance เว็บเทรด crypto ที่ใหญ่ที่สุดของโลกต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่เกี่ยวกับกฎระเบียบด้านการฟอกเงินและจัดหาเงินทุนของผู้ก่อการร้ายด้วยการเพิ่มระบบการยืนยันตนเอง (KYC)
สมาชิกอาวุโส 3 รายจากทีมกฎระเบียบของ Binance ได้พูดคุยถึงความท้าทายที่ Binance กระดานเทรดคริปโตยักษ์ใหญ่ของโลกได้เผชิญหน้ากับผลกระทบจากการทำ KYC ซึ่งแสดงผลผ่านโวลุ่มการซื้อขายเหรียญตามรายงานของ CoinDesk เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม
ทีผ่านมาเมื่อเดือนกรกฎาคม 2021 Binance ได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดในการลดจำนวนการถอน Bitcoin ของลูกค้าที่ไม่ทำ KYC จาก 2 BTC ต่อวัน เป็น 0.06 BTC ต่อวัน
อย่างไรก็ตาม Tigran Gambaryan หัวหน้าเจ้าหน้าที่การปฏิบัติตามกฎระเบียบของ Binance กล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เว็บกระดานเทรดคริปโตต้องสูญเสียรายได้กว่า “พันล้านดอลลาร์” แต่ Binance ก็ยังคงมีขนาดใหญ่กว่าเว็บคริปโตคู่แข่งหลายเท่าตัว
“เราสูญเสียลูกค้า 90% หลังจากใช้ KYC ซึ่งถือเป็นการสูญเสียรายได้นับพันล้านดอลลาร์”
Binance เหมือนกับกระดานเทรดทั่วไป
จากการวิจัยที่ Binance ดำเนินการภายในแพลตฟอร์มได้พบเห็นเม็ดเงินจำนวนมากที่นำเข้าอย่างผิดกฎหมาย
“หากคุณดูเปอร์เซ็นต์ของธุรกรรมทั้งหมดใน Binance จะเห็นได้ว่ามันใหญ่กว่าคู่ต่อสู้อย่างมาก”
ที่ผ่านมา Binance ดำเนินการในเขตอำนาจศาลทางกฎหมายที่หลากหลาย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำกับดูแลหลักก็ได้ดำเนินการผ่านงานที่ท้าทายเช่นเดียวกัน โดย Gambaryan รับทราบว่ากระดานเทรดคริปโตจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับกฎระเบียบของประเทศนั้น ๆ มากยิ่งขึ้นโดยจะต้องเจาะจงที่จะปฏิบัติตามกฎหมายในแต่ละพื้นที่
“กฎระเบียบในแต่ละประเทศมีความแตกต่างเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่เรื่องเงินฝาก แต่รวมถึงการทำตามกฎระเบียบในแต่ละประเทศด้วย”
อย่างไรก็ตาม Binance พลิกเอาชนะ Coinbase และกลายเป็นเว็บเทรดคริปโตที่มีการถือครอง Bitcoin มากที่สุดในโลกหลังจากได้รับประโยชน์จากความพยายามในการประชาสัมพันธ์มากยิ่งขึ้นและได้รับการอนุมัติด้านกฎระเบียบที่มากยิ่งขึ้น
Facebook Comments