ในขณะโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย และโลกการเงินก็พัฒนาอย่างต่อเนื่องเข้าสู่ สังคมไร้เงินสดเข้าไปทุกที ๆ ในบทความนี้เราจะพาไปพบกับการพัฒนาด้านการเงินของประเทศต่างๆ ในส่วนของ ‘Digital currency’
1. Dubai: EmCash
เริ่มต้นโครงการ : 2017
วัตถุประสงค์โครงการ: ใช้ในโครงการต่างๆทั้งของรัฐบาลและเอกชน เช่น ชำระค่ากาแฟ, ค่าเล่าเรียน, ค่าสาธารณูปโภคต่างๆ และ การโอนเงิน
ความคืบหน้าของโครงการณ์: EmCash เป็นเงินดิจิทัลใน EmPay Wallet ให้ประชาชนในดูใบสามารถเข้าถึงการชำระค่าสินค่าและการบริการต่างได้ในรูปแบบดิจิทัล
2. Venezuela: Petro
เริ่มต้นโครงการ : 2018
วัตถุประสงค์ของโครงการณ์: มีการอ้างว่าสกุลเงินนี้ มีการค้ำประกันด้วยน้ำมัน และแร่ต่างของประเทศ เพื่อป้องกันการลดลงของค่าเงิน โบลิวาร์ (Bolívar) ซึ่งเป็นสกุลเงินหลักของประเทศ (ลดปัญหาเงินเฟ้อ)
ความคืบหน้าของโครงการณ์: ยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก อีกทั้งยังมีการรายงานจากสื่อว่าร้านค้าต่าง ๆ ในท้องถิ่นของ เวเนซุเอลามองว่าเหรียญ Petro เป็นเหรียญหลอกลวง (Scam)
3. Estonia: EstCoin
เริ่มต้นโครงการ : 2017
วัตถุประสงค์ของโครงการ: จะเป็นเหรียญที่มีการเสนอขายแบบ ICO สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในประเทศเอสโตเนีย ผ่านระบบ E-Residency Program
ความคืบหน้าของโครงการณ์: แม้จะได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากผู้ก่อตั้งเหรียญ Etheruem (Vitalik Buterin) แต่จนถึงวันนี้ก็ไม่มีความชัดเจน และยังมีข่าวว่าธนาคารยุโรปได้มีการสั่งห้ามให้ประเทศเอสโตเนียสร้างเงินดิจิทัลของตนเอง
4. Russia: Cryptoruble
เริ่มต้นโครงการ : 2018
วัตถุประสงค์ของโครงการ: เป็นสกุลเงินที่ออกโดยรัฐบาทตามความคิดและนโยบายของ นายกรัฐมนตรี วลาดิเมีย ปูติน กล่าวว่าจะเหมือนเงิน รูเปิลทุกประการเพียงแต่เป็นรูปแบบของดิจิทัล และสามารถแลกเปลี่ยนกับสกุลรูเบิลได้ในมูลค่าเดียวกัน
ความคืบหน้าของโครงการณ์: ยังไม่มีความชัดเจนว่าได้มีการทดสอบหรือใช้งานในปัจจุบัน ต้องรอติดตามกันต่อไป
5. Marshall Island: Sovereign (SOV)
เริ่มต้นโครงการ : 2018
วัตถุประสงค์ของโครงการ: เป็นการพัฒนาโดยการร่วมมือกับบริษัท Algorand ผู้ริเริ่มธุรกิจบล๊อกเชนรายใหญ่ และต้องการให้ SOV เป็นสกุลเงินดิจิทัลแห่งชาติแรกในโลก โดยจะมีการกระจายเหรียญผ่านทาง Pre-sale และการประมูล
ความคืบหน้าของโครงการณ์: มีการรายงานว่า SOV ใช้ Algorand Protocal และจากรายงานกล่าวว่า SOV จะหมุนเวียนควบคู่ไปกับ US Dollar ซึ่งเป็นสกุลเงินหลักของประเทศ
นอกจากยังมีโครงการ CBDC Project (Central Bank Digital Currency) ใช้เรียกสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางของประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการชำระเงินระหว่างธนาคารภายในประเทศและ อื่นๆ ตามเงื่อนไขของประเทศนั้นๆ โดยส่วนใหญ่จะค้ำประกันโดยสกุลเงินของประเทศนั้นๆ เป็น Stable Coin ในอัตราแลกเปลี่ยน 1:1 กับสกุลเงินประจำชาติ มีหลายประเทศที่พัฒนาโครงการณ์นี้อย่างเป็นรูปธรรมแล้ว
6. Sweden: E-Krona
ความคืบหน้าของโครงการ : ขณะนี้ได้มีรายงานการทดสอบ E-Krona ซึ่งจะนำไปสู่การเปิดตัวเงินดิจิทัล ของธนาคารกลางในประเทศสวีเดนอย่างเต็มรูปแบบในช่วงครึ่งหลังปี 2020
7. Bahamas: Sand Dollar
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกรรม และภาพรวมทางการเงินของชุมชนทั่วทั้งหมู่เกาะความคืบหน้าของโครงการ : ได้มีโครงการนำร่องทดลองใช้ในบางเมืองของบาฮามาสแล้ว
8. China: Digital Yuan (E-RMB)
ความคืบหน้าของโครงการ : โครงการนำร่องเงินดิจิทัลหยวนได้เริ่มทดลองครั้งแรกใน 4 เมือง คือ เสิ่นเจิ้น ซูโจว เฉิงตู รวมทั้งสงอันเขตเมืองใหม่ และพื้นที่จะรองรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่งปี 2022 โดยได้นำเงินสกุลดิจิทัลหยวนนี้มาใช้ในระบบการเงินทางการของเมือง
9. Thailand: Project Inthanon
ความคืบหน้าของโครงการ: มีการรายงานข่าว โปรเจคอินทนนท์ของเราได้จบในเฟส 3 ไปแล้ว สามารถโอนเงินข้ามประเทศได้แบบเรียลไทม์ (Real Time)
และอีกหลายประเทศเช่น
France: Digital Euro
Ukraine: E-Hryvnia
Turkey: Digital Lira
Uruguay: E-peso
Canada: Project Jasper
Singapore: Project Ubin
Cambodia: Project Bakong
Ghana: E-Cedi
Japan: Digital Yen
ที่มา: Bitcoin.com, Cointelegraph, Coindesk,
Facebook Comments