นักสู้ UFC ชาวบราซิล เรนาโต โมอิคาโน่ คว้าชัยชนะในการแข่งขัน UFC 300 เมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา พร้อมกับกล่าวสุนทรพจน์หลังจบการแข่งขันอย่างน่าประทับใจว่า เขาต้องการขอรับโบนัส $300,000 เป็น Bitcoin (BTC)
คำขอของโมอิคาโน่ถูกนำไปโพสต์บนแพลตฟอร์ม X และสร้างกระแสฮือฮาให้กับนักลงทุนและผู้ที่ชื่นชอบในตลาดสกุลเงินดิจิทัลเป็นอย่างมาก
บิตคอยน์นั้นถูกออกแบบโดยอาศัยหลักการทางเศรษฐศาสตร์แบบออสเตรียหลายประการที่นำมาประยุกต์ใช้กับแนวคิดของเงินตรา ดร. ลุดวิก ฟอน ไมเซส ผู้เป็นบุคคลสำคัญที่มีบทบาทอย่างยิ่งในการอธิบายภาวะเงินเฟ้อและผลกระทบเชิงลบที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจโลกอย่างชัดเจน
ด้วยเหตุนี้ บิตคอยน์จึงได้รับความนิยมในฐานะเครื่องมือทางการเงินที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยมีแนวคิดว่าเป็นสินทรัพย์ที่สามารถป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ซึ่งอธิบายความเชื่อมโยงระหว่างคำพูดของเรนาโต โมอิคาโน่ ในการแข่งขัน UFC 300 และคำขอรับโบนัส $300,000 เป็นบิตคอยน์
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าวิสัยทัศน์ดั้งเดิมของซาโตชิ นากาโมโตะ คือการสร้าง “ระบบเงินสดแบบอิเล็กทรอนิกส์แบบเพื่อนกับเพื่อน” (A Peer-to-Peer Electronic Cash System) แต่ถึงกระนั้นบิตคอยน์ยังคงเผชิญกับความท้าทายในการเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนที่ผู้คนสามารถใช้ได้ง่าย ตัวอย่างเช่น ค่าธรรมเนียมเฉลี่ยของเครือข่ายบิตคอยน์นั้นได้พุ่งสูงขึ้นจนเกือบเท่ากับรายได้เฉลี่ยต่อวันของคนทั่วโลก โดยเว็บไซต์ Finbold รายงานว่า ค่าธรรมเนียมเฉลี่ยของบิตคอยน์ สูงเท่ากับค่าแรงงานเฉลี่ยทั่วโลก 1 วัน ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 4 เดือน
แต่ถึงกระนั้น ผู้ที่ชื่นชอบบิตคอยน์อย่างเรนาโต โมอิคาโน่ นักสู้ UFC 300 ก็ยังคงสนับสนุนวิสัยทัศน์ดังกล่าว โดยยังคงใช้บิตคอยน์เป็นเงินรางวัลของเขา แต่คำถามที่ยังคงคาใจอยู่ตอนนี้คือ องค์กร Ultimate Fighting Championship จะตกลงที่จะจ่ายเงินโดยใช้สกุลเงินดิจิทัลอันดับต้น ๆ นี้หรือไม่
ที่มา : finbold
Facebook Comments