มาดูตัวเลขกัน โดยเฉลี่ยแล้วร้านสตาร์บัคทั่วโลกทั่วโลก 27,000 แห่งแต่ละแห่งให้บริการลูกค้าวันละอย่างน้อย 500 รายแปลว่าจะมีลูกค้าทั้งหมด 13.5 ล้านคนในวันเดียว ด้วยการค้ากาแฟปลีกแต่ละถ้วยอยู่ในราคา $ 5 นั่นหมายถึง 68 ล้านเหรียญสหรัฐและมีรายรับมากถึง 2หมื่น5พันล้านเหรียญสหรัฐในแต่ละปี
เราเข้าใจว่า Starbucks และ Microsoft ที่ได้รับการสนับสนุนผ่าน ICE ที่มี Bakkt อยู่เบื้องหลังนั่นคือ “ การสร้างเครือข่ายทั่วโลกที่เปิดกว้างและไร้รอยต่อเพื่อให้คุณสามารถซื้อขายจัดเก็บและใช้สินทรัพย์ดิจิตอลได้อย่างง่ายดายปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ” ด้วย ทำงานร่วมกันระหว่าง Starbucks และ Microsoft ลูกค้าจะสามารถซื้อกาแฟลาเต้ได้ด้วย Bitcoin แทนที่จะเป็นเงินสด Alec Ziupsnys หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรมของ BlockEdge Capital เชื่อมั่นอย่างสูงว่าการเปิดตัว Bakkt ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ยังไม่ได้รับการอนุมัติจาก CFTC นั่นแหละจะทำให้มีการเปิดตัว Bitcoin Futures ที่จับต้องได้เป็นครั้งแรก และในที่สุด Bitcoin จะถูกกฎหมายโดยมีฐานลูกค้า 100 ล้านรายต่อสัปดาห์
ไม่ใช่ลูกค้าทุกคนที่จะใช้ Bitcoin เราต้องการแค่จำนวนที่เล็กน้อยเท่านั้น
เราต้องตระหนักถึงความเป็นจริงมากขึ้นว่า Starbucks – Microsoft จะร่วมมือกันสร้างกระเป๋า Wallet ที่มีความปลอดภัย ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถแปลง Bitcoins เป็น USD หรือสกุลเงิน fiat อื่น ๆ ตามพื้นที่ท้องถิ่นนั้น ๆ ที่ซึ่งจะใช้ในการซื้อกาแฟ ทุกคนไม่พร้อมที่จะแปลง Bitcoins เป็น fiat เนื่องจากการแปลงสกุลเงินทุกครั้งต้องเสียภาษีและคำนวณถึงความผันผวนของ BTC ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งมีน้อยคนที่จะเต็มใจทำ
อย่างไรก็ตามสมมติว่าร้อยละหนึ่งของลูกค้า 13.5 ล้านคนแปลง BTC ของพวกเขาเป็นเงิน fiat และซื้อกาแฟ ซึ่งจะแปลเปลี่ยนเป็นมูลค่าตลาดที่เพิ่มขึ้น $ 250 ล้านต่อปีและนั่นแหละส่งผลให้ตลาด crypto มีเสถียรและความผันผวนลดน้อยลง ข่าวดีอีกประการก็คือมีโอกาสที่จะจูงใจให้ร้านค้าปลีกในอเมริกาหันมาใช้จ่าย , ชำระเงิน และยอมรับ crypto เพิ่มมากขึ้น
ที่มา : crypterium
ช่องทางรับข้อมูลข่าวสาร : Facebook , Tweet , Google+ , Youtube
Telegram กลุ่มพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้เรื่อง crypto : ที่นี่
Facebook Comments