CoinMarketCap เป็นเว็บไซต์ติดตามข้อมูลราคาของเหรียญที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลก ในพื้นที่ Cryptocurrency ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ภารกิจของ CoinMarketCap คือการทำให้การค้นหาข้อมูล Cryptocurrency สามารถทำได้อย่างง่าดายทั่วโลก โดยเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ใช้รายย่อยด้วยข้อมูลที่เป็นกลาง , มีคุณภาพสูงและถูกต้องสำหรับการศึกษาค้นคว้าข้อมูลของตนเอง
CoinMarketCap ถุกก่อตั้งโดย Brandon Chez ในเดือนพฤษภาคม 2013 และเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่สุดจากผู้ใช้สถาบันและสื่อในการเปรียบเทียบสินทรัพย์คริปโตหลายพันรายการและมักถูกอ้างถึงโดย CNBC, Bloomberg และสำนักข่าวหลักอื่น ๆ (แม้แต่รัฐบาลสหรัฐฯ เองก็ใช้ข้อมูลจาก CoinMarketCap เพื่อการทำวิจัยและรายงาน!)
ในเดือนเมษายนปี 2020 บริษัท Binance Capital Mgmt ได้เข้าซื้อกิจการของ CoinMarketCap และทำให้ Binance กลายเป็นเว็ปเทรดที่อยู่เบื้องหลังเว็ปข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปโดยปริยาย
จากจำนวนเหรียญ Cryptocurrency หลายพันตัวที่ได้ผ่านมาตรฐานของ Coinmaketcap และถูก List ข้อมูลขึ้นบนเว็ปไซต์ ขณะเดียวกันก็มีเหรียญของคนไทยที่ได้ถูก List อยู่บนเว็ปไซต์ Coinmaketcap ด้วยเช่นกัน
โดยเราไปดูรายละเอียดของแต่ละเหรียญกัน
Circulating Supply: 140,245,398 OMG
คำว่า Omise (อ่านว่า โอ-มิ-เซะ) แปลว่า “ร้านค้า” ในภาษาญี่ปุ่น
ผู้ก่อตั้งเป็นคนไทยชื่อ นายอิศราดร หะริณสุต (ดอน) ได้ตั้งบริษัท Omise ร่วมกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นชื่อ นายจุน ฮาเซกาวา เริ่มแรกระดมทุนจากเวนเจอร์แคปปิตอลอยู่หลายครั้ง ก่อนจะมาเปิดระดมทุนด้วยการเสนอขาย ICO ในกลางปี 2560 ด้วยโทเคนที่ชื่อ OmiseGO (OMG)
ปัจจุบันบริษัท Omise มีธุรกิจหลักๆคือ บริการชำระเงินด้วยบัตรเดบิต/เครดิต, กระเป๋าเงิน E-Wallet, บริการ Internet Banking และบริการระบบ Payment สำหรับลูกค้าองค์กร
รูปแบบการใช้งานของเหรียญ OMG เป็นเงินดิจิทัล โดยโปรเจกต์ของ OmiseGo จะสร้างแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนมูลค่าและการชำระเงินแบบไม่มีศูนย์กลาง หรือเป็นอินเทอร์เน็ตของระบบการชำระเงินเอง ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงบริการทางการเงิน การลงทุน การใช้จ่ายสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยโทเคน OMG ในไทยมีซื้อขายอยู่ที่ Bitkub
Total Supply: 100,000,000 BAND
Band Protocol คือ Cross-chain Data Oracle ซึ่งทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างข้อมูลจากโลกแห่งความเป็นจริงเข้าไปในระบบบล็อกเชนหรือ Smart contract ทำงานบนระบบบล็อกเชนของตัวเองที่เรียกว่า Bandchain (มีพื้นฐานมาจาก Framework Cosmos SDK) เปิดระดมทุมเมื่อปี 2017 โดยมี CEO และผู้ร่วมก่อตั้งคือ คุณสรวิศ ศรีนวกุล (แมน) อายุ 28 ปี จบปริญญาตรีสาขาวิศวคอมพิวเตอร์ และปริญญาโทจาก Stanford University
Band Protocol เป็น Oracle ชนิดหนึ่ง ทำหน้าที่เป็นตัวกลางรวบรวมและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลจากโลกแห่งความจริง ก่อนที่จะป้อนข้อมูลเหล่านั้นไปให้แอพลิเคขั่นบนบล็อกเชนหรือ Decentralized Applications (dApps)
Total Supply: 21,400,000 XZC
ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าทีมพัฒนาเหรียญเป็นคนไทย ชื่อนายปรมินทร์ อินโสม (หนึ่ง) แต่ ZCoin ไม่ได้ระดมทุนด้วย ICO เหมือนกับเหรียญอื่น ๆ
โดยคุณสมบัติที่โดดเด่นมากของ Zcoin นั้นคือ การปกปิดหรือความเป็นส่วนตัวในการทำธุรกรรม จึงเหมาะกับธุรกรรมต่าง ๆ ที่ผู้เกี่ยวข้องไม่ต้องการให้เปิดเผยตัวตน โดยในปัจจุบัน Zcoin ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพดีมากขึ้นเรื่อยๆ โดยในไทยมีให้เทรดอยู่ที่กระดาน Bx และ SatangPro ซึ่งนายปรมินทร์ก็เป็นผู้ก่อตั้ง SatangPro และเป็นซีอีโอด้วย
Total Supply: 999,999,970 SIX
SixNetwork เกิดจากการรวมตัวของ 3 กลุ่มเพื่อทำการออกขาย ICO โดยหนึ่งในนั้นคือ กลุ่มคนไทยและยังดำรงตำแหน่ง Co-founder,Co-CEO เหมือนกันคือ นายวัชระ เอมวัฒน์ (กั๊ก) และ นายณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ (หมู) โดยเสนอขาย ICO ด้วย SIX Token (SIX)
แนวคิดของเหรียญเป็น เงินดิจิทัล เพื่อใช้จ่ายในแอปพลิเคชั่นต่างๆ ในระบบนิเวศน์ของกลุ่ม เช่น Ookbee และ Yellow Digital Marketing Group (YDM) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ร่วมก่อตั้ง SixNetwork โดยภายใต้กลุ่มบริษัท มีผู้ใช้งาน SIX Token ทั้งหมดมากกว่า 40 ล้านคน ทางกลุ่มมีเป้าหมายที่จะเป็น “The Internet of Digital Services”
ในไทย SIX Token เปิดให้เทรดอยู่ที่กระดาน Bitkub
Total Supply: 1,000,000,000 HBX
ออกและเสนอขาย โดยบริษัทแฮชบีเอ็กซ์ โกลบอล จำกัด คุณวันเฉลิม ลังกาวิเขต เป็น Founder และ CEO เหรียญ HBX เป็น Utility Token เพื่อสนับสนุนการใช้จ่ายด้วยเงินดิจิทัล ทางบริษัทได้พัฒนาแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า Cryptomap ซึ่งก่อตั้งและพัฒนาแพลตฟอร์ม เพื่อรองรับความต้องการ คริปโตเคอเรนซี่ที่แท้จริง มิใช่เพียงเพื่อแลกเปลี่ยนเท่านั้น ปัจจุบันสามารถซื้อขายได้ที่ 365.stream, Stex.com, Crex24.com
Total Supply: 500,000,000 AFIN
ออกและเสนอขายโดย บริษัท Asian Fintech (Afin) ซึ่งมีนายสิทธิศักดิ์ มหาสิทธิวัฒน์ เป็นผู้อำนวยการและผู้ก่อตั้ง เสนอขาย ICO ด้วยเหรียญ Afincoin (AFIN)
แนวคิดของเหรียญเป็น Utility Token เกี่ยวกับการประมูลสิ่งของบนเครือข่ายบล็อกเชน แพลตฟอร์มการจองบริการด้านสุขภาพ และแพลตฟอร์มการจัดการขุดเหมือง (Crypto Mining)
เหรียญ AFIN ใช้เพื่อเข้าถึงแพลตฟอร์ม Business Blockchain ของ Asian Fintech หรือใช้เป็นส่วนลดในรายการต่างๆ ตามผลิตภัณฑ์ของแต่ละแพลตฟอร์ม ปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่กระดาน P2PB2B และ Cex24
Total Supply: 233,889,296 ZMN
เป็นเหรียญของบริษัทขุดเหมืองคริปโตของคนไทยที่ใช้ GPU ในการประมวลผล โดยออกและเสนอขาย ICO โดยบริษัท ซีมายน์ โฮลดิ้ง ลิมิเต็ด (ZMINE Holdings Limited) ของนายกษมพัทธ์ วิธานวัฒนา ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
แนวคิดของเหรียญ เป็นทั้งเงินดิจิทัล และ Utility Token โปรเจกต์นี้ระดมทุนเพื่อนำเงินส่วนหนึ่งไปจัดซื้ออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการขุดทั้งหมด โดยเฉพาะการ์ดจอบางส่วนจะนำไปใช้ในการวิจัยและพัฒนาโปรแกรมและระบบต่างๆ เพื่อให้ระบบสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงลงทุนในด้านการตลาดเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับโทเคน โดยเหรียญ ZMN สามารถซื้อ-ขายได้บนกระดาน Livecoin
Total Supply: 131,456,406 C8
แม้จะเป็นเหรียญสัญชาติไทยก็จริง แต่ก็ไม่มีให้ซื้อขายในไทยตั้งแต่แรกอยู่แล้วเพราะมุ่งจะโกอินเตอร์ ปัจจุบันเทรดอยู่ที่กระดาน IDEX
ผู้ก่อตั้งคือ นายธีระชาติ ก่อตระกูล ชื่อเล่น “แม็กซ์” เขายังเป็นเจ้าของและผู้พัฒนาแอปพลิเคชันวิเคราะห์หุ้น “StockRadars” โดยเสนอขายไอซีโอด้วยโทเคนที่ชื่อ Carboneum (คาร์บอเนียม)
แนวคิดของเหรียญ เป็น Utility Token โปรเจกต์นี้นำเงินระดมทุนไปพัฒนาแพลตฟอร์มโซเชียลเทรดดิ้ง เพื่อให้นักลงทุนเลียนแบบไอดอลสายเทรดคริปโตที่ตนเองชื่นชอบ โดยโทเคน C8 มีไว้ใช้จ่ายค่าธรรมเนียมซื้อขาย,เข้าถึงฟีเจอร์ในระดับพรีเมียม รวมถึงการใช้รับส่วนลดต่างๆ ของกลุ่มบริษัท โดยเหรียญ C8 สามารถซื้อ-ขายได้บนกระดาน Uniswap (V2)
Total Supply: ไม่ระบุ
JFIN เป็นโปรเจกต์ ICO ตัวแรกที่ออกโดยบริษัทที่มีแม่อยู่ในตลาดหุ้น และมันได้สร้างความฮือฮาให้กับคนในวงการตลาดหุ้นเป็นอย่างมาก
ผู้ออกเสนอขาย JFinCoin คือ บริษัท เจเวนเจอร์ส โดยมีนายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ (ทาโร่) เป็นซีอีโอและทีมงานหลัก และเจเวนเจอร์สยังเป็นบริษัทย่อยของ “เจมาร์ท” (JMART) ภายใต้ร่มเงาของนายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งเจมาร์ทเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย
แนวคิดของเหรียญ เป็นโทเคนเพื่อการใช้ประโยชน์ในสินค้าหรือบริการ (Utility Token) โปรเจกต์นี้จะพัฒนาแพลตฟอร์มการให้กู้ยืมออนไลน์ผ่านระบบบล็อกเชน (DDLP) หรือพูดง่าย ๆ คือคนมีทุนมาปล่อยกู้ และให้คนมาขอยืมเงินได้ โดยสามารถทำข้อตกลงกันเองได้เลย ผ่านโปรแกรมที่จะสร้างขึ้นนี้ละ โทเคนจะใช้เพื่อ 1.เป็นตัวกลางของระบบบล็อกเชน ในการมีส่วนร่วมสอบทานธุรกรรม (Validator) และ 2.เป็นเครื่องมือในกลไก Proof of Stake เพื่อผลักดันให้ระบบเดิน เปรียบได้กับแก๊ส หรือน้ำมัน
ในไทยเหรียญ JFIN มีการซื้อขายอยู่ที่เว็บ SatangPro และ Bitkub
Total Supply: ไม่ระบุ
HappyPay ก่อตั้งโดย นายภัชภูมิ วิตติยากร วรรณพฤกษ์ ซึ่งมีประสบการณ์สายงานไอทีมากกว่า 10 ปี และนาย Lee Cham Sarm ชาวเกาหลี ที่คลุกคลีอยู่ในวงการคริปโตเคอร์เรนซีมานานมากกว่า 5 ปี
HPAY เป็นเหรียญอัลกอริทึม X11 ที่มีการเลือกใช้งานทั้ง proof of work และ proof of stake ในเวลาเดียวกัน เหรียญนี้ถูกสร้างขึ้นมาบนแนวคิดที่จะมาเป็นเหรียญสำหรับใช้ซื้อและใช้จ่ายสินค้าสำหรับร้านค้ารายย่อยในไทย เดิมทีในไทยสามารถเทรดได้ที่กระดาน Coin Asset แต่ในภายหลังทาง Coin Asset ถูกปฏิเสธใบอนุญาตการประกอบธุรกิจ HPAY จะต้องหาบ้านใหม่ แต่ก็ยังไม่พบว่ามีการลิสต์ที่กระดานเทรดอื่นในไทย
หากมีข้อมูลผิดพลาดต้องขออภัยไว้ณ ที่นี่ด้วย Cryptonews ได้ทำการรวบรวมข้อมูลจากการศึกษา หาข้อมูลผ่านทางสื่ออินเตอร์เน็ตเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก: Coinmaketcap, efinancethai.com, medium.com
1
1
Facebook Comments