ตลาดสกุลเงินดิจิทัลเป็นที่รู้จักและถูกวิพากษ์วิจารณ์ (โดยบางคน) ในเรื่องของความผันผวน (volatility) ที่รุนแรง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือในช่วง 12 ชั่วโมงที่ผ่านมาเมื่อราคาร่วงลง ทำให้มีการ liquidation future มูลค่าเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์
Bitcoin เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบ impact น้อยที่สุด แต่ราคาก็ยังคงร่วงลงจากประมาณ 71,000 ดอลลาร์เหลือ 65,000 ดอลลาร์ ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับมาอยู่ที่ประมาณ 67,000 ดอลลาร์ในวันนี้
ความผันผวน (Volatility) กระทบทุกตลาด
แม้ว่าตลาดสกุลเงินดิจิทัลจะเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความผันผวน (volatility) แต่ตลาดอื่นๆ ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ราคาของ altcoin ร่วงลงอย่างรุนแรง โดยหลายสกุลเงินดิจิทัลมีตัวเลขที่ลดลงเป็นมูลค่ากว่าสองหลัก
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดที่ค่อนข้างผันผวนน้อยที่สุด ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ดัชนี S&P 500 ลดลงจาก 5,210 จุดเหลือต่ำกว่า 5,100 จุดภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที รวมถึง Dow Jones Industrial Average และ Nasdaq Composite ก็ลดลงด้วยเช่นกัน
แม้แต่ทองคำ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความมั่นคงในยามวิกฤติและมีความผันผวน (volatility) ต่ำ ก็ยังร่วงลดลง 4% ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง โดยร่วงลงจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $2,433 เหลือ $2,333
ก่อนหน้านั้น ราคทองคำได้พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ราคาพุ่งทะลุ $2,000 ไปในช่วงต้นปีนี้ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในยุโรปและตะวันออกกลางยิ่งส่งเสริมให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น จนแตะราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ทุกตลาดดูเหมือนจะได้รับผลกระทบจากความเห็นล่าสุดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนในธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) โดยนายราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารเฟดสาขาแอตแลนต้า และนางแมรี่ ดาลีย์ ประธานธนาคารเฟดสาขาซานฟรานซิสโก เป็นหนึ่งในผู้ที่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะชะลอการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินจากเดิม
ประธานทั้งสองคนรีบออกมาปฏิเสธข่าวลือที่ว่าธนาคารกลางจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ นางดาลีย์ระบุว่า “ยังมีงานอีกมากที่ต้องทำ” และ “ไม่มี” ความเร่งด่วนที่จะลดอัตราดอกเบี้ยอย่างแน่นอน
ที่มา : cryptopotato , pic : cryptonewsz
Facebook Comments