นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เพิ่งจะกลายเป็นข่าวใหญ่ หลังพวกเขาอ้างว่า สามารถถอดรหัสอัลกอริทึม RSA ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในระบบธนาคาร การทหาร และสกุลเงินดิจิทัลได้ แต่ YouTuber ชื่อดังอย่าง Mental Outlaw บอกว่า ความก้าวหน้าที่จีนทำได้นั้น ยังไม่แรงพอที่จะสร้างผลกระทบต่อมาตรฐานการเข้ารหัสในปัจจุบัน เพราะยังมีข้อจำกัดในแง่ของการคำนวณหลายประการ
จากรายงานวิจัย คอมพิวเตอร์ควอนตัมที่ใช้ในการทดลองสามารถแยกตัวประกอบจำนวนเต็ม 2,269,753 ได้ ซึ่ง Mental Outlaw ก็บอกว่านี่ถือเป็นสถิติใหม่ของคอมพิวเตอร์ควอนตัม แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ยังไม่ได้แซงหน้าสถิติที่คอมพิวเตอร์แบบดั้งเดิมเคยทำไว้
YouTuber รายนี้ยังเสริมอีกว่า คอมพิวเตอร์ควอนตัมที่ใช้ในการทดลองสามารถเจาะได้แค่คีย์ขนาด 22 บิตเท่านั้น ซึ่งถ้าเทียบกับคอมพิวเตอร์ทั่วไปที่เคยถอดรหัสคีย์ขนาด 892 บิตได้ มันต้องใช้เวลา 2,700 ปีของการประมวลผล ถึงจะถอดคีย์ได้
หากเปรียบเทียบกัน RSA ในช่วงแรก ๆ ส่วนใหญ่จะใช้คีย์ขนาด 512 บิต แต่ปัจจุบันมาตรฐานการเข้ารหัสที่ใช้กันหลังปี 2015 จะอยู่ที่ 2048 ถึง 4096 บิต นอกจากนี้ คอมพิวเตอร์ควอนตัมยังไม่สามารถรวมพลังประมวลผลขนาดนั้นได้ เพื่อเอาชนะข้อจำกัดด้านนี้
นอกจากนี้ควอนตัมบิต (qubits) เองยังต้องการอุณหภูมิที่ใกล้ศูนย์องศาแบบสมบูรณ์ (เกือบ -273 องศาเซลเซียส) เพื่อให้เสถียรพอที่จะทำงานเป็นหน่วยประมวลผลข้อมูล ซึ่งต้องมีโครงสร้างการทำความเย็นที่สลับซับซ้อน
อีกปัญหาที่พูดถึงในวิดีโอ YouTube คือ ส่วนใหญ่ของควอนตัมบิตในคอมพิวเตอร์ควอนตัมถูกใช้ไปกับการแก้ไขข้อผิดพลาด นั่นหมายความว่า พลังการประมวลผลส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกใช้เพื่อแก้ปัญหาหลักที่ป้อนให้กับคอมพิวเตอร์ แต่ถูกนำไปใช้เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดซะมากกว่า
ท้ายที่สุด YouTuber ชื่อดังนี้ก็สรุปว่า คอมพิวเตอร์ควอนตัมยังไม่เป็นภัยต่อมาตรฐานการเข้ารหัสที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน แต่ก็ควรเฝ้าระวังเพราะเทคโนโลยีนี้อาจพัฒนาเร็วเกินที่คาดกันไว้
credit : cointelegraph
Facebook Comments