Chainlink ( LINK ) ผู้ให้บริการโอราเคิลบล็อคเชนกำลังดำเนินโครงการนำร่องสำหรับสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ของบราซิลที่เสนอให้ใช้ชื่อว่า DREX ร่วมกับ Microsoft และบริษัทอื่นๆ ในประเทศ
ตามข่าวเผยแพร่ Chainlink กล่าวว่าบริษัทกำลังร่วมมือกับ Microsoft Brazil ธนาคารดิจิทัล Banco Inter และบริษัทการเงินแบบบล็อคเชน 7COMm เพื่อสร้างโซลูชันการเงินการค้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์นำร่อง DREX ในเฟสที่สอง
ตามประกาศระบุว่า เป้าหมายของโครงการนำร่องนี้คือเพื่อ “สาธิตการชำระเงินอัตโนมัติของธุรกรรมสินค้าเกษตรข้ามพรมแดน ข้ามแพลตฟอร์ม และผ่านสกุลเงินที่แตกต่างกัน”
Chainlink จะใช้ Cross-Chain Interoperability Protocol (CCIP) เพื่อสร้างการทำงานร่วมกันระหว่างธนาคารกลางของบราซิลและธนาคารต่างชาติอื่น ๆ ที่ใช้ DREX เพื่อให้แน่ใจว่าการชำระเงินธุรกรรมจะมีประสิทธิภาพ
โปรเจกต์ นำร่องนี้ยังมีเป้าหมายที่จะสร้างโทเค็นใบตราส่งสินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ (eBoL) หรือใบเสร็จรับเงินสำหรับสินค้าที่ใช้โดยผู้ส่งและผู้ให้บริการขนส่ง และใส่ไว้ในเครือข่ายโดยใช้ข้อมูลห่วงโซ่อุปทานเพื่อกระตุ้นการชำระเงินให้แก่ผู้ส่งออก
แองเจลา วอล์กเกอร์ หัวหน้าฝ่ายธนาคารและตลาดทุนระดับโลกของ Chainlink Labs กล่าวว่า
“เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกับธนาคารกลางของบราซิล Banco Inter และ Microsoft เพื่อแสดงให้เห็นว่าการนำเทคโนโลยีบล็อคเชนมาใช้ร่วมกับโปรโตคอลการทำงานร่วมกัน CCIP ของ Chainlink จะช่วยเปลี่ยนแปลงการเงินการค้าได้อย่างไร… Chainlink CCIP ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การทำธุรกรรมข้ามพรมแดน ข้ามสกุลเงิน และข้ามเครือข่ายมีความปลอดภัย และจะช่วยแสดงให้เห็นว่าสินทรัพย์ในรูปแบบโทเค็นสามารถทำอะไรได้บ้างในกรณีการใช้งาน CBDC ที่สำคัญนี้ในบราซิล”
เทคโนโลยี CCIP ของ Chainlink ได้รับการนำมาใช้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยบริษัทคริปโตสัญชาติสวิส Taurus ในการพิสูจน์แนวคิดร่วมกับยักษ์ใหญ่ในการจัดการสินทรัพย์ State Street เพื่อสร้างกองทุนให้เป็นโทเค็น
Sergey Nazarov ผู้สร้าง Chainlink ทำนายไว้ เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า CCIP จะช่วยให้สินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริง (RWA) แซงหน้ามูลค่าของทุกภาคส่วนในสกุลเงินดิจิทัล และจะกลายเป็นกลไกหลักที่ช่วยให้การเงินแบบดั้งเดิมสามารถนำเงินหลายล้านล้านดอลลาร์มาสู่อุตสาหกรรมบล็อกเชนได้
“ดังนั้น นี่จึงเป็นโลกแบบที่ฉันคิดว่าเราทุกคนควรเตรียมตัวให้พร้อม และระบบนิเวศ Chainlink ก็กำลังดำเนินการอยู่ โดยช่วยให้ DeFi เติบโตและปลอดภัย และบรรลุระดับความน่าเชื่อถือและรับประกันตามที่ชุมชน DeFi และชุมชน TradFi ต้องการ รวมทั้งช่วยให้มูลค่าของชุมชน TradFi ไหลไปสู่บล็อคเชนและสู่ระบบนิเวศ DeFi ในที่สุด”
หากเป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ CCIP (โปรโตคอลการทำงานร่วมกันระหว่างเครือข่ายแบบครอสเชน) จะกลายมาเป็นหนึ่งในโปรโตคอลหลักของอินเทอร์เน็ต ซึ่งเราเรียกว่าอินเทอร์เน็ตแห่งสัญญาและอินเทอร์เน็ตแห่งมูลค่า เนื่องจาก CCIP เป็นกลไกการขนส่งข้อมูลและมูลค่าโดยพื้นฐาน ซึ่งข้อมูลและมูลค่าจะไหลเข้าสู่และข้ามเครือข่ายทั้งหมดเหล่านั้น”
credit : dailyhodl credit pic : avark.agency
Facebook Comments