ราคาของ Bitcoin พุ่งทะยานแตะระดับสูงสุดที่ $91,684 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังนักลงทุนเริ่มประเมินว่าความขัดแย้งด้านภาษีระหว่างสหรัฐฯ กับจีนอาจสิ้นสุดเร็วกว่าที่คาดไว้
ข้อมูลจาก Bitcoin CounterFlow ระบุว่า Bitcoin เพิ่มขึ้น 4.5% ภายใน 24 ชั่วโมง แม้จะอ่อนตัวเล็กน้อยจากช่วงบ่าย แต่ยังอยู่ในเส้นทางที่จะทำสถิติการปรับขึ้นรายวันที่สูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน ซึ่งในวันนั้นสินทรัพย์ดิจิทัลตัวนี้พุ่งขึ้นถึง 8.3% หลังประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศลดภาษีนำเข้าทั่วโลกเหลือ 10% โดยเน้นความเข้มข้นเฉพาะกับจีน
ขณะเดียวกัน Altcoin หลายตัวก็เคลื่อนไหวในแดนบวกเช่นกัน โดย Fartcoin เหรียญมีมจากฝั่ง Solana พุ่งขึ้นถึง 21% มาอยู่ที่ $1.08 ส่วน Dogecoin ขยับขึ้น 9% อยู่ที่ $0.17 ขณะที่ Ethereum และ Solana ปรับตัวขึ้น 8% และ 6% ตามลำดับ
สัญญาณบวกหลักมาจากคำกล่าวของ Scott Bessent รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ที่งานปิดของ JPMorgan ในกรุงวอชิงตัน ซึ่งระบุว่า “สงครามการค้ากับจีนเป็นสิ่งที่ไม่ยั่งยืน และเขาคาดว่าการลดความตึงเครียดจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้” รายงานโดย Bloomberg
ความเห็นของ Bessent ช่วยคลายความกังวลในตลาด Wall Street ที่เกิดจากความเสี่ยงด้านภาษี โดยดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ที่ร่วงไปเมื่อวันจันทร์ กลับฟื้นตัวขึ้นมาได้ 2.3% ในวันอังคาร ตามรายงานของ Yahoo Finance
Strahinja Savic หัวหน้าฝ่ายข้อมูลของ FRNT Financial กล่าวว่า “ทั้งตลาดการเงินแบบดั้งเดิมและตลาดคริปโตฯ กำลังได้อานิสงส์จากความคืบหน้าด้านการเจรจาการค้า ขณะที่ Bitcoin ได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากบทบาทที่ชัดเจนยิ่งขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา”
ทำเนียบขาวยืนยันว่า ขณะนี้มีข้อเสนอด้านการค้าที่ร่างไว้แล้ว 18 ฉบับ และทีมเจรจาการค้า ซึ่งรวมถึง Bessent และรัฐมนตรีพาณิชย์ Howard Lutnick กำลังพบกับตัวแทนจาก 34 ประเทศในสัปดาห์นี้
Alice Liu หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ CoinMarketCap กล่าวเสริมว่า “Bitcoin กำลังแสดงสัญญาณแยกตัวจากสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ โดยเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับทองคำ ซึ่งเป็นสัญญาณของความเชื่อมั่นจากนักลงทุนสถาบันที่มองหาแหล่งเก็บมูลค่าที่ยั่งยืน”
credit : decrypt
0
0
Facebook Comments