Vitalik Buterin เกิดเมื่อ 31 มกราคม 2537 ที่ประเทศรัสเซีย แต่จริงๆแล้วเค้ามี 3 สัญชาติคือ มอนเตเนโกร, รัสเซียและ แคนาดา Vitalik มีแววอัจฉริยะตั้งแต่เด็ก เขาชื่นชอบคณิตศาสตร์, เศรษฐศาสตร์ และคอมพิวเตอร์ และด้วยความเป็นอัจฉริยะนี้ ทำให้เขามีเพื่อนไม่มากนัก และให้ความสนใจกับเกมส์คอมพิวเตอร์อย่าง World Of Warcraft มากกว่าการเรียน
พ่อของเขา Dmitriy Buterin เป็นผู้พลักดันให้เขาได้รู้จักกับ Bitcoin จนเริ่มเข้าไปศึกษาค้นคว้า และหลงไหลเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อคเชน
ปี 2011 (อายุ 17ปี) เขาก็ได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยวอเตอร์ลู (University of Waterloo) ในแคนาดา ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ นอกจากเรียน Vitalik ยังทำงานพาร์ทไทม์เป็นผู้ช่วยการวิจัยให้กับ Ian Goldberg ผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโต รวมถึงเป็นอดีตกรรมการของ The Tor Project ด้วยความรู้และความสนใจในบิทคอยน์และบล๊อคเชน เขาหารายได้ด้วยการเขียนบทความให้กับ เว็บไซต์ชื่อ Bitcoin Weekly โดยได้รับค่าตอบแทนถึง 5 BTC (ในขณะนั้น 1 BTC = $0.8)
ในปี 2012 (อายุ 18ปี) เขาได้ชนะรางวัลเหรียญทองแดงการแข่งขันคอมพิวเตอร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ “International Olympiad in Informatics” ด้วยความสามารถในการเขียนบทความของ Vitalik เขาจึงถูก Mihai Alisie ผู้คลั่งไคล้บิตคอยน์จากโรมาเนีย ทาบทามให้มาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งนิตยสาร “Bitcoin Magazine” โดยรับหน้าที่เป็นนักเขียนอาวุโส เพื่อเผยแพร่และแลกเปลี่ยนความรู้แก่ผู้ที่มีความสนใจด้าน Bitcoin จากทั่วโลก
ในปี 2013 (อายุ 19ปี) เขาก็ได้พบปะนักพัฒนาหลายประเทศที่สนใจด้านการเขียนโค้ดเหมือนๆ กัน เขาได้พัฒนา Ethereum ขึ้น
ในปี 2014 (อายุ 20ปี) Vitalik ได้ออกจากมหาวิทยาลัย เนื่องจากได้รับทุนกว่า $100,000 สำหรับเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 23 ปี เพื่อสนับสนุนความสนใจอื่นๆ เขามีความคิดว่าจะเริ่มก่อตั้งทำระบบ Blockchain อย่างเต็มรูปแบบ
ในปี 2015 (อายุ 21ปี) ได้เริ่มมีการเผยแพร่ Ethereum Whitepaper และมีการเปิดตัว Ethereum อย่างเป็นทางการ
ในปี 2021 (อายุ 27ปี) นิตยสาร Forbes ระบุว่า Vitalik Buterin ผู้สร้างเหรียญ Ethereum (ETH) กลายเป็นมหาเศรษฐีคริปโตที่อายุน้อยที่สุดของโลก (ในขณะนั้น 1 ETH = $3,000)
ปัจจุบัน Ethereum กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากบล๊อคเชนคู่แข่งอื่นๆ (Ethereum Killer) เช่น Algorand, Cardano, Polkadot และ Solana โดยเฉพาะ Binance Smart Chain (BSC) ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชน ที่พัฒนาโดยกระดานแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก
Blockchain ของ Ethereum แตกต่างจาก Bitcoin คือ มีระบบ Smart Contract ซึ่งรองรับการทำธุรกรรมได้หลากหลายประเภท สามารถสร้าง Application ประเภทต่างๆได้อย่างอิสระ มีการจัดเก็บข้อมูลจะกระจายไปตามเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆ ทั่วโลก จึงทำให้ Ethereum ถือเป็นระบบ Decentralized Finance (DeFi) แบบไม่ผ่านตัวกลางหรือสถาบันการเงินใดๆ
Smart Contracts นั้นเปรียบเสมือนเป็นการเอาข้อมูลที่เราต้องการ (ข้อมูลอะไรก็ได้) มาเขียนลงในโปรแกรมทำเป็นภาษาคอมพิวเตอร์ แล้วให้ประมวลผลยึดกับระบบ Blockchain ของ Ethereum เราจึงสามารถนำเทคโนโลยีนี้มาประยุกต์ใช้ภายในองค์กร หรือ หน่วยงานรัฐ สร้างความเป็น Decentralized ไม่มีคนกลางคอยควบคุม ทุกอย่างจึงโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้
ข้อคิดที่น่าสนใจเกี่ยวกับประวัติของ Vitalik คือ ถึงแม้บิทคอยน์จะเป็นสิ่งที่โดดเด่นและครองตลาดอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังสามารถมองเห็นถึงจุดบกพร่องหรือจุดอ่อนของบิทคอยน์ และนำมาพัฒนาต่อยอดระบบของ Ethereum จนเหนือกว่า Bitcoin ได้ในที่สุด หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่เชื่อว่าทุกสิ่งบนโลกใบนี้ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ ไม่แน่ว่าคุณอาจจะเป็นอีกหนึ่งคนที่มองเห็นแนวทางการพัฒนา และสร้างสรรค์สิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้เหมือนกัน
Credit: Seek Sonic (Crypto PodDecast)
ช่องทางการติดต่อ
Facebook, Twitter, Telegram, Blockdit
กดลิ้งสมัครฟรี เว็ปเทรด Binance👇🏻
กดลิ้งสมัครฟรี เว็ปเทรด Satangpro👇🏻
กดลิ้งสมัครฟรี เว็ปเทรด Bitkub 👇🏻
Facebook Comments