Chris Larsen ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานบริหารของ Ripple ต้องการปรับปรุงอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการปล่อยคาร์บอนก๊าซของ Bitcoin
ในการให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg, Larsen กล่าวว่าฉันทามติ Proof of Work ของ bitcoin นั้นควรได้รับการปรับปรุงและด้วยเหตุนี้ เขาได้ชักชวนกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสภาพอากาศต่างๆ รวมถึง Greenpeace ให้เปิดตัวแคมเปญ “Change the Code, Not the Climate” ด้วย กองทุน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนแคมเปญนี้
แคมเปญนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อกดดันชุมชนนักพัฒนา Bitcoin เพื่อให้เปลี่ยนวิธีการผลิต Bitcoin จากการขุดโดยทุ่มความสนใจไปกับการที่ใช้พลังงานมากเป็นพิเศษ
“เราจะดำเนินการแคมเปญนี้ในระยะยาว แต่เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าขณะนี้ bitcoin ได้รับเงินทุนจากหน่วยงานและบุคคลที่ใส่ใจเกี่ยวกับเรื่องของสภาพภูมิอากาศ เราสามารถกระตุ้นให้พวกเขายอมรับว่านี่เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข” Michael Brune อดีตกรรมการบริหารของ Sierra Club ซึ่งปัจจุบันรับผิดชอบแคมเปญดังกล่าว
รายงานล่าสุดโดยศูนย์การเงินทางเลือกของมหาวิทยาลัย Cambridge ระบุว่า Bitcoin นั้นใช้ไฟฟ้ามากเท่ากับประเทศในยุโรปขนาดกลางและมากกว่าสวีเดนเสียอีก Chris เชื่อว่าหากปัญหาการใช้พลังงานของ Bitcoin ไม่ได้รับการแก้ไขในขณะนี้ ‘ในอีกห้าปี bitcoin อาจจะกินไฟเท่ากับประเทศญี่ปุ่น’
นับตั้งแต่ปี 2020 สหรัฐฯ ได้เป็นบ้านของเหมืองขุด Bitcoin จำนวนมาก โดยเห็นการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมากของอัตราแฮชทั่วโลก ปัจจุบันสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีการเหมืองขุด bitcoin มากที่สุดที่สุด โดยมีส่วนแบ่ง 40% ของอัตราแฮชทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่การขุด Bitcoin ถือเป็นสิ่งที่ดีสำหรับผู้ใช้ crypto ส่วนใหญ่ แต่ผู้เล่นที่โดดเด่นจำนวนมากรวมถึง CEO ของ Tesla นาย Elon Musk ได้หยิบยกปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมขึ้นมาพูด เช่น ปัญหาการใช้พลังงานที่สูง และความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจากเหมืองขุด
นอกจากนี้ Larsen ยังกล่าวว่า “เหมืองขุดจำนวนมากนั้นกำลังนำโรงไฟฟ้าถ่านหินและก๊าซเก่ามาใช้ใหม่และไม่รับผิดชอบต่อปริมาณพลังงานที่พวกเขาใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ” ดังนั้นจึงทำให้ค่าพลังงานสูงขึ้นสำหรับผู้อยู่อาศัยหรือมีการดูดพลังงานจากกริดโดยไม่คำนึงถึงการใช้งานที่มากเกินไปซึ่งถือเป็นเรื่องที่รับไม่ได้
ตอนนี้ Larsen ต้องการให้นักขุด Bitcoin หันมาสนใจในเรื่องของสิ่งแวดล้อม ด้วยการเปลี่ยนไปใช้กลไกฉันทามติที่ใช้พลังงานต่ำ เช่น Proof-of-Stake สำหรับเขา สิ่งนี้จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง Code ของเครือข่ายเพื่อทำให้ Bitcoin ใช้พลังงานน้อยลง เช่นเดียวกับ XRP, Solana, Cardano และ Ethereum ที่มีการอัพเกรดเป็น PoS ในช่วงปลายปีนี้และคาดว่าจะลดการใช้พลังงานลงถึง 99%
“ตอนนี้เมื่อ Ethereum เปลี่ยนฉันทามติไปเป็น POS , Bitcoin ก็จะกลายเป็นสิ่งที่มีมูลค่าสูงเกินจริง” Chris กล่าวเสริมด้วยว่า “โปรโตคอลใหม่บางเหรียญ เช่น Solana, Cardano ถูกสร้างขึ้นโดยใช้พลังงานที่ต่ำ”
อย่างไรก็ตามแคมเปญของ Larsen นั้นได้กระแสตอบรับที่ไม่ค่อยดีนักจากชุมชนคริปโตในวงกว้าง รวมถึง CSO Blockstream นาย Samson Mow และผู้เชี่ยวชาญด้าน crypto อื่น ๆ อีกมากมายที่ได้แสดงความไม่พอใจกับในข้อเสนอดังกล่าว
“ผู้ร่วมก่อตั้ง Ripple กำลังทำแคมเปญโฆษณามูลค่า 5 ล้านดอลลาร์ โดยเรียกร้องให้ซีอีโอที่เป็นมิตรกับ Bitcoin เปลี่ยนเครือข่ายเป็น POS บางทีเขาอาจชอบโลกที่ซีอีโอสามารถควบคุมอนาคตของเครือข่ายสกุลเงินดิจิทัลได้จากศูนย์กลาง” – Neeraj K. Agrawal จาก Coin Center กล่าว
Facebook Comments