วันที่ 4 เมษายน สองวันหลังจากที่ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้นถึงระดับ $ 5,000
Chicago Mercantile Exchange (CME) ประกาศในทวีตว่ามีวอลุ่มซื้อขาย Bitcoin Futures ถึง 112,700 Bitcoin เทียบเป็นมูลค่าเท่ากับ 563 ล้านดอลลาร์ นั่นเป็นจำนวนเงินมหาศาลและใกล้เคียงกับปริมาณวอลุ่มของ exchange 10 อันดับแรกซึ่งมีมูลค่าราว ๆ 685 ล้านดอลลาร์
ปริมาณวอลุ่มมาจากไหน
นักลงทุนรายย่อยและเหล่า hodlers ส่วนใหญ่มักจะไม่เทรด bitcoin futures พวกเขารู้สึกว่ามันยุ่งยากซับซ้อนและในสัญญา Future ของ CME ต้องใช้เงินขั้นต่ำถึง 5 Bitcoins. แล้ววอลุ่มมันมาจากที่ไหนกัน ? ตามบทความของ CryptoSlate เมื่อเร็ว ๆ นี้ พบชิ้นส่วนสำคัญของการซื้อขายจำนวนมหาศาลในครั้งนี้ และมันอาจมาจาก Wall Street
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมมหาเศรษฐี , กองทุน hedge funds และ สถาบันการลงทุนใหญ่ ๆ ถึงใช้วิธีการซื้อขายแบบ Future และในขณะที่ “เหล่าวาฬ” หรือนักลงทุนอื่น ๆ ไม่ได้ชื่นชอบวิธีนี้ซะเท่าไหร่. โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับสากลการเทรด Bitcoin Future นั้นจะส่งผลบวกต่อ crypto ecosystem ให้เกิดพัฒนาขึ้น 2 ประการหลัก ๆ ดังนี้
Bitcoin Futures มีตลาดที่ถูกกฏหมาย
หนึ่งในปัญหาที่ตลาด cryptocurrency ต้องเจอเลยก็คือ การที่ต้องรับรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่หลอกลวง ซึ่งนั่นอาจฟังดูไร้สาระสำหรับคนที่เข้าใจทุกอย่างใน crypto แล้ว. แต่ยังมีอีกหลายล้านคนที่ยังไม่เชื่อว่ามันอยู่ในระดับที่จะสามารถซื้อขาย Future ได้
ผู้คนที่ลงทุนใน Wall Street คงจะไม่กล้าลงทุนจำนวนเงินมหาศาลขนาดนี้ ถ้าหากพวกเขาคิดว่ามันเป็นการหลอกหลวง. เมื่อมีการซื้อขาย Future มูลค่าราว 500 ล้านดอลลาร์ในวันเดียว ผู้คนเริ่มเปลี่ยนความคิดใหม่และหันมาให้การยอมรับ Cryptocurrency .
อีกก้าวหนึ่งที่เข้าใกล้ ETF
ประการที่สองการซื้อขาย Future อาจเพิ่มโอกาสที่ Bitcoin ETF จะผ่านการอนุมัติได้ในที่สุด หนึ่งในกฏเกณฑ์มาตรฐานการอนุมัติของ ETF เลยก็คือ ราคาที่ถูกต้อง(ราคาที่มันควรจะเป็น) ที่ต้องใช้เครื่องมือการลงทุนอย่าง Future ก็เพราะเพื่อช่วยให้นักลงทุนปกป้องตัวเองได้เมื่อเกิดราคาที่ผันผวน
ตอนนี้วอลุ่มการซื้อขายในตลาด Future เพิ่มขึ้น ดังนั้นโอกาสของ Bitcoin ETF ที่ได้รับการอนุมัติก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
แล้วอะไรจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ?
สัญญาซื้อขาย Future นั้นเป็นสิ่งที่ดีมากสำหรับระบบนิเวศ cryptocurrency ไม่เพียงสร้างกฏเกณฑ์ที่ถูกต้องให้กับตลาด แต่พิสูจน์ให้เห็นว่า Bitcoin นั้นมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นถึงแม้ว่าตอนนี้ราคา Bitcoin จะยังมีการเติบโตในระดับที่ต่ำ แต่นักลงทุนก็เข้าใจและพร้อมที่จะเข้ามาในตลาด
เมื่อไหร่ที่พวกเขาเริ่มดึงดูดความสนใจของปลาที่ตัวโตกว่า (สถาบันนักลงทุน) เมื่อนั้นคือช่วงที่ดอกไม้ไฟจะเริ่มโบยบินบนท้องฟ้า
ที่มาของภาพ: “ Flickr”
Facebook Comments