ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา blockchain, Bitcoin และ cryptocurrencies ได้ทำลายความเชื่อเดิม ๆ ที่เราเคยร่ำเรียนกันมา ไม่ว่าจะเป็นการธนาคาร, กองทุนป้องกันความเสี่ยง, การบังคับใช้กฎหมาย, การดูแลสุขภาพและอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเทคโนโลยี Blockchain และ cryptocurrencies ถูกกำหนดมาเพื่อปฏิวัติอุตสาหกรรมจำนวนมาก แต่นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
อย่างไรก็ตามแม้จะมีความกระตือรือร้นและความตื่นเต้นมากมายในเรื่องของ cryptocurrencies และความสามารถของเทคโนโลยี blockchain ในเรื่องของการปฏิวัติอุตสาหกรรมต่าง ๆ แต่ในขณะเดียวกันมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกหลายคนกลับแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป
Jeff Bezos
นาย Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้าน e-commerce และเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลกด้วยสินทรัพย์ที่ถือครองกว่า 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อ้างอิงจากการจัดอันดับของ Forbes ในปี 2019
แต่อย่างไรก็ตามเขายังคงปฏิเสธที่จะยอมรับ Bitcoin หรือ crypto ตัวอื่น ๆ บนแพลตฟอร์มของเขา ซึ่งความสนใจเพียงอย่างเดียวเกี่ยวกับเทคโนโลยี blockchain ของเขานั่นก็คือ cloud computing ของ amazon ซึ่งได้เป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกับสตาร์ทอัพบล็อกเชนที่มีชื่อว่า Kaleido เมื่อปี 2018
Bill Gates
บิลเกตส์เป็นอีกหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ด้วยสินทรัพย์ที่ถือครองกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ แม้ว่าก่อนหน้านี้บิลเกตส์จะรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากเกี่ยวกับ Bitcoin ในปี 2014 ซึ่งเขาบอกกับสื่อข่าวบลูมเบิร์กในการให้สัมภาษณ์ว่า “Bitcoin นั้นดีกว่าสกุลเงินใด ๆ บนโลก” แต่เขาก็ได้ถอนคำพูดของเขาในภายหลัง เนื่องจากเขาได้ตั้งข้อสังเกตุว่าสกุลเงินดิจิทัลนั้นไม่เหมาะสำหรับการทำธุรกรรม
นอกจากนี้ในระหว่างการสัมภาษณ์กับ CNBCในปี 2018 บิลเกตส์ยังกล่าวว่า “Bitcoin และ ICO นั้นถือว่าเป็นการเก็งกำไรอย่างสมบูรณ์” แต่อย่างไรก็ตามเขากล่าวเสริมด้วยว่า blockchain ซึ่งเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานที่อยู่เบื้องหลัง cryptocurrencies นั้นมีข้อดีมากมาย
Warren Buffett
บัฟเฟตต์เป็นนักวิจารณ์ Bitcoin และ cryptocurrencies มาอย่างยาวนาน โดยในระหว่างการประชุมผู้ถือหุ้น Berkshire Hathaway ประจำปี 2018 บัฟเฟตต์ได้เรียก Bitcoin ว่าเป็น “ภาพลวงตา” ซึ่งเป็น “ยาเบื่อหนู” และ “ไม่ใช่สกุลเงินที่แท้จริง”
นอกจากนี้ในระหว่างทานอาหารค่ำร่วมกับนาย Justin Sun CEO ของ Tron บัฟเฟตก็ยังคงยืนยันเช่นเดิมว่าเขาไม่ได้เป็นเจ้าของ crypto ใด ๆ และเน้นย้ำด้วยว่าที่เขาไม่เป็นเจ้าของ crypto ก็เพราะสุดท้ายแล้วมันจะมีมูลค่าเท่ากับศูนย์
Bernard Arnault
ด้วยอาณาจักรธุรกิจที่ครอบคลุมกว่า 70 แบรนด์ รวมถึง Sephora และ Louis Vuitton ทำให้ Bernard Arnault เป็นชายที่ร่ำรวยที่สุดในโลกนับตั้งแต่ปี 1985 และเมื่อเขาซื้อ Christian Dior นับตั้งแต่นั้นมาแบรนด์หรูของเขาก็เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมียอดขายสูงเป็นประวัติการณ์โดยเฉพาะในปี 2018
แม้ว่าจะไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการจากนาย Arnault ในเรื่องของ Bitcoin หรือเทคโนโลยีบล็อกเชน แต่รายงานแสดงให้เห็นว่าเศรษฐีพันล้านคนนี้เพิ่งได้ร่วมมือกับ Microsoft Azure และ ConsenSys ไปเมื่อปีที่แล้วเพื่อพัฒนาแพลตฟอร์ม blockchain สำหรับการติดตามผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นโดย LVMH
Larry Ellison
นาย Larry Ellison เป็นผู้ร่วมก่อตั้งของ Oracle ที่มีมูลค่ากว่า $ 50,000 ล้านดอลลาร์ และเป็นบริษัทที่ร่ำรวยที่สุดอันดับเจ็ดของโลก Larry Ellison เป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีเพียงไม่กี่คนที่มักพูดถึง Bitcoin และข้อดีของเทคโนโลยีบล็อกเชนอยู่เสมอ
Mark Zuckerberg
เมื่อเร็ว ๆ นี้บริษัท Facebook ต้องเผชิญกับความล้มเหลวในการเปิดตัวเหรียญ Stable coin ของตัวเองนามว่า ‘Libra’ เนื่องจากผู้คนมากมายเริ่มมีความกังวลว่า หากผู้ใช้ Facebook ทุกคนยอมรับ Libra เป็นสกุลเงินหลักของโลก สกุลเงินที่เหลือนั้นก็จะถูกทำลายหายไป
อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ปี 2018 นาย Mark Zuckerberg มีจุดยืนที่ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยเขาได้กล่าวว่า “เทคโนโลยีที่ใช้ขับเคลื่อน Bitcoin จะสามารถเข้ามาช่วยปรับปรุง Facebook ได้ในอนาคต”
Ray Dalio
นาย Ray Dalio ผู้ก่อตั้ง Bridgewater Associates ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า “ตอนนี้เราอยู่ในจุดที่นโยบายการเงินจะไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้เช่นเดียวกับที่เคยทำมาในอดีต”
อย่างไรก็ตามนาย Ray Dalio เชื่อว่าทองคำเป็นสวรรค์ที่ปลอดภัยมากกว่า Bitcoin ในมุมมองของเขา โดยเขากล่าวว่า “ตอนนี้เงินมีวัตถุประสงค์อยู่สองประการนั่นก็คือ : เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนและเป็นทรัพย์สินที่มั่งคั่ง ซึ่ง Bitcoin ไม่ได้อยู่ในทั้งสองกรณี”
Elon Musk
เมื่อเร็ว ๆ นี้นาย Elon musk ได้ตอบรับความสนใจจากทวีตลับ ๆ จำนวนมากเกี่ยวกับ Bitcoin แต่อย่างไรก็ตามในที่สุด CEO และผู้ก่อตั้งของ Tesla ก็เปิดเผยความในใจว่าความสนใจของเขา “ไม่ได้อยู่ในพื้นที่นี้หรือใน Bitcoin” แม้ Musk จะมองเห็นคุณค่าในตัวของ Bitcoin แต่ถึงกระนั้นเขาก็เชื่อว่าส่วนใหญ่พวกมันมักจะถูกใช้สำหรับการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย
นอกจากนี้เขายังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่าถึงแม้เขาจะมองว่า “คริปโตนั้นสามารถเข้ามาแทนที่เงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ” แต่ในขณะเดียวเขากลัวว่ามันมีอาจมีการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการเงินและธนาคารควรต้องระมัดระวัง
Jack Ma
จากบทความของBloomberg ในปี 2018 นาย Jack Ma ได้ออกมาเตือนถึงเรื่อง cryptocurrencies โดยเขาประกาศว่า Bitcoin มีโอกาสที่จะกลายเป็นฟองสบู่ แต่อย่างไรก็ตามสำหรับเทคโนโลยีบล็อกเชนเขาเชื่อว่ามันจะ “กุญแจที่เปิดขุมทรัพย์ทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
Michael Novogratz
นาย Mike Novogratz CEO และผู้ก่อตั้งบริษัท Galaxy Digital Holdings และเป็นอดีตผู้จัดการกลุ่ม Fortress Investment Group ได้มีทำนายราคาอย่างถูกต้องว่า Bitcoin จะสามารถพุ่งแตะระดับ $ 10,000 ได้ในช่วงสิ้นปี 2017
นาย Mike Novogratz นั้นเป็นแฟนตัวยงของ Bitcoin อย่างแน่นอน โดยก่อนหน้านี้เขาได้กล่าวเอาไว้ว่า: “Bitcoin จะกลายเป็นทองคำดิจิทัลตัวต่อไป”
Tim Draper
Tim Draper ยังคงรักษาจุดยืนที่ดีใน Bitcoin นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2014 เมื่อเขาเข้าซื้อ Bitcoin ที่ถูกยึดและประมูลมาจาก US Marshals ซึ่งจำนวน Bitcoin ทั้งหมดที่เขาเป็นเจ้าของในขณะนั้นคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 19 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
เมื่อเร็ว ๆ นี้นาย Tim Draper ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง CNBC โดยเผยว่าเมื่อหกเดือนก่อน เขาเพิ่งก้าวเดินออกจากตลาดหุ้นแบบดั้งเดิมและหันมาเก็บสะสมและลงทุนใน Bitcoin แทน เนื่องจากเขาเชื่อว่า Bitcoin นั้นจะพุ่งแตะระดับ 250,000 ดอลลาร์ในปี 2023
ฝาแฝด Winklevoss
หลังจากที่ราคาของ Bitcoin เพิ่มสูงขึ้นในปี 2017 นาย Tyler และ นาย Cameron ก็ได้กลายเป็นเศรษฐี Bitcoin รายแรกของโลกและต่อมาสองพี่น้องก็ได้เริ่มก่อตั้งบริษัท Gemini ซึ่งเว็ปเทรดคริปโตที่อ้างว่าเป็นเจ้าของ Bitcoin กว่า 1% ของทั้งหมดที่มีอยู่ในระบบ ดังนั้นไม่ต้องเดาเลยว่าพวกเขาจะศรัทธาในคริปโตเคอเรนซี่มากแค่ไหน
Bill Harris
นาย Bill Harris อดีต CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะนักวิจารณ์ Bitcoin ตัวยง โดยในบทความที่เขาได้เขียนไว้ในปี 2018 อดีต CEO ของ PayPal ได้เรียก Bitcoin ว่าเป็นการหลอกลวงและเสริมด้วยว่า “มันเป็นการปั่นราคาและเทขายครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นสิ่งที่โลกไม่เคยเห็นมาก่อน”
ที่มา : cointelegraph
Facebook Comments