SharpLink ทุ่ม 6 พันล้านดอลลาร์ ซื้อ Ethereum เดิมพันครั้งใหญ่ที่สุดในธุรกิจคริปโต

Crypto News
Read Time2 Minute, 25 Second

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2025 บริษัท SharpLink Gaming (NASDAQ: SBET) ประกาศแผนการระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนมูลค่าสูงถึง 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าหมายหลักในการนำเงินที่ได้ไปลงทุนใน Ethereum (ETH) ซึ่งเป็นหนึ่งในคริปโตเคอร์เรนซีชั้นนำของโลก การเคลื่อนไหวครั้งนี้นับเป็นการลงทุนในคริปโตที่ใหญ่ที่สุดจากบริษัทมหาชน และสะท้อนถึงความตั้งใจอย่างชัดเจนของ SharpLink ในการบูรณาการสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ากับโครงสร้างธุรกิจของตน

ก่อนหน้านี้ SharpLink เคยประสบความสำเร็จในการระดมทุนมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ซึ่งถูกนำไปใช้ซื้อ ETH และสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน การที่บริษัทขยายวงเงินในการระดมทุนเป็น 6 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ แสดงถึงความมั่นใจในคริปโตเคอร์เรนซี โดยเฉพาะ Ethereum ซึ่งมีระบบนิเวศที่เอื้อต่อการพัฒนา Web3 และการใช้งาน smart contract

จนถึงวันประกาศ SharpLink ได้ถือครอง ETH แล้วทั้งสิ้น 280,706 เหรียญ คิดเป็นมูลค่ากว่า 800 ล้านดอลลาร์ โดยในจำนวนนี้มีมากถึง 74,656 ETH ที่ซื้อเพียงในหนึ่งสัปดาห์ของเดือนกรกฎาคม มูลค่าราว 213 ล้านดอลลาร์ ในราคาต่อเหรียญประมาณ 2,852 ดอลลาร์ นอกจากนี้ ETH ทั้งหมดถูกนำไปใช้ในการ staking บนเครือข่าย Ethereum เพื่อรับผลตอบแทนจากการดำเนินงานของระบบ โดยบริษัทได้รับรายได้จาก staking แล้ว 415 ETH ภายในเวลาไม่ถึงสองเดือน ซึ่งถือเป็นรูปแบบรายได้แบบพาสซีฟที่เกิดจากการถือครองสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์

https://x.com/SharpLinkGaming/status/1944766136928887052

หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นพร้อมกันคือ SharpLink ได้ทำธุรกรรมซื้อ ETH โดยตรงจาก Ethereum Foundation จำนวน 10,000 เหรียญ ผ่านช่องทาง OTC (Over-the-Counter) คิดเป็นมูลค่าประมาณ 25.7 ล้านดอลลาร์ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มูลนิธิ Ethereum ขายเหรียญโดยตรงให้กับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ยิ่งตอกย้ำสถานะของ SharpLink ในฐานะผู้เล่นรายใหญ่ที่ได้รับความไว้วางใจในระบบนิเวศ Ethereum

หาก SharpLink ดำเนินการระดมทุนจนเต็มวงเงินและใช้ทั้งหมดไปกับการซื้อ ETH บริษัทจะถือครอง ETH รวมถึง 1 ล้านเหรียญ หรือคิดเป็นประมาณ 1.38% ของอุปทาน ETH ทั้งหมดในระบบ การถือครองในระดับนี้สามารถสร้างผลกระทบต่อสภาพคล่องของตลาด และอาจส่งผลต่อราคาของ ETH ได้หากเกิดภาวะอุปทานลดลง อย่างไรก็ตาม การกระจุกตัวของ ETH ในมือของบริษัทเดียวก็สร้างความกังวลในบางฝ่าย เกี่ยวกับความเป็นศูนย์กลางที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงความเป็นไปได้ของการแทรกแซงกลไกตลาดหรือนโยบายของเครือข่ายในอนาคต

ต่างจากบริษัทอื่นที่มุ่งเน้นการถือครอง Bitcoin เพื่อใช้เป็นสินทรัพย์สำรอง SharpLink เลือกใช้ Ethereum ด้วยวิสัยทัศน์ระยะยาวต่อบทบาทของบล็อกเชนในโลกดิจิทัล บริษัทมองว่า ETH ไม่ใช่เพียงสินทรัพย์ที่เพิ่มมูลค่าในอนาคต แต่ยังเป็นเทคโนโลยีที่สามารถนำมาใช้จริงได้ในหลายมิติ เช่น ระบบการเงินไร้ตัวกลาง (DeFi), แอปพลิเคชัน Web3 และกลไก staking ที่สร้างรายได้แบบพาสชีพอินคัม

credit : spaziocrypto , pic : cryptostete

0 0

Facebook Comments