สัปดาห์นี้อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนของวงการคริปโตทั่วโลก เมื่อสหรัฐฯ ประกาศเดินเครื่องเต็มกำลังใน “Crypto Week” ด้วยการหยิบยกร่างกฎหมาย 3 ฉบับเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งแต่ละฉบับล้วนมีเป้าหมายเพื่อสร้างความชัดเจนทางกฎหมายและเปิดประตูต้อนรับเม็ดเงินระดับล้านล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบการเงินดิจิทัลอย่างเป็นทางการ
ร่างกฎหมายทั้ง 3 ฉบับ ได้แก่ CLARITY Act, GENIUS Act และ Anti-CBDC Surveillance State Act โดย CLARITY Act จะเป็นตัวกำหนดนิยามของสินทรัพย์ดิจิทัลว่าใดเป็น “หลักทรัพย์” และใดเป็น “สินค้าโภคภัณฑ์” เพื่อให้ทราบชัดเจนว่าอยู่ภายใต้การกำกับของหน่วยงานใด เช่น SEC หรือ CFTC ซึ่งจะช่วยลดความไม่แน่นอนทางกฎหมายที่ค้างคามานานในวงการ
ในส่วนของ GENIUS Act ซึ่งผ่านวุฒิสภามาแล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายน จะกำหนดกรอบให้กับผู้ออกเหรียญ Stablecoin โดยกำหนดให้ต้องมีทุนสำรอง 1 ต่อ 1 กับดอลลาร์สหรัฐฯ หรือสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องเทียบเท่า พร้อมทั้งขยายขอบเขตของกฎหมาย Bank Secrecy Act ให้ครอบคลุมถึงผู้ให้บริการ Stablecoin ด้วย ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานเหรียญ Stablecoin ที่กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด
สำหรับร่างกฎหมาย Anti-CBDC Surveillance State Act นั้น มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ออกสกุลเงินดิจิทัล (CBDC) ที่อาจถูกนำไปใช้ละเมิดความเป็นส่วนตัวของประชาชน ซึ่งสะท้อนถึงแรงต้านจากภาคเอกชนที่ไม่ต้องการให้รัฐมีอำนาจควบคุมทางการเงินมากจนเกินไป
Reeve Collins ซีอีโอของ ReserveOne มองว่า Crypto Week ครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ ที่สหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนความไม่แน่นอนให้กลายเป็นความชัดเจนทางกฎหมาย พร้อมเสริมว่า การมีกรอบที่ชัดเจนจะช่วยให้ธนาคารดั้งเดิมและฟินเทคกล้าเข้ามามีบทบาทในตลาดคริปโต ซึ่งอาจปลดล็อกมูลค่าในระบบได้ระดับล้านล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
ด้าน Denelle Dixon จากมูลนิธิ Stellar ระบุว่า GENIUS Act ถือเป็นรากฐานสำคัญที่จะทำให้สหรัฐฯ ยังคงรักษาความแข็งแกร่งของดอลลาร์ในโลกการเงินยุคใหม่ เธอยังกล่าวอีกว่า Stablecoin เป็นสะพานสำคัญที่จะเชื่อมระบบการเงินเก่าเข้ากับบล็อกเชน และการมีกฎเกณฑ์ที่เหมาะสมจะช่วยให้ตลาดเติบโตอย่างมั่นคง ปลอดภัย และยั่งยืน
แม้ว่าขณะนี้ทั้ง 3 ร่างกฎหมายยังไม่ได้ผ่านการโหวตขั้นสุดท้าย แต่การลงมติให้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาอย่างเป็นทางการแล้ว ด้วยคะแนน 215 ต่อ 211 ถือเป็นสัญญาณบวกที่สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของฝ่ายนิติบัญญัติในการยกระดับอุตสาหกรรมคริปโตให้ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนยังคงมองว่าโอกาสในการผ่านร่างกฎหมายภายในสัปดาห์นี้อาจไม่สูงนัก เนื่องจากกระบวนการรัฐสภายังมีขั้นตอนอีกมาก และยังมีแรงต้านจากบางฝ่ายที่มองว่ากฎหมายเหล่านี้เอื้อประโยชน์ต่อเอกชนมากเกินไป อีกทั้งยังมีปัจจัยเรื่องเวลาที่กระชั้นชิดก่อนเข้าสู่ช่วงปิดสมัยประชุมของสภาคองเกรส
แม้จะยังไม่ผ่านออกมาเป็นกฎหมายอย่างเป็นทางการ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นใน Crypto Week ก็ได้สร้างแรงกระเพื่อมอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในสหรัฐฯ นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการผลักดันกรอบกฎหมายสำหรับคริปโตที่ชัดเจน โปร่งใส และเอื้อต่อการเติบโตในระยะยาว พร้อมทั้งส่งสัญญาณสู่ทั่วโลกว่าสหรัฐฯ กำลังเอาจริงกับอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัล
credit : cryptonews , pic : news.bitcoin
0
0
Facebook Comments