ตลาดโลกและสกุลเงินดิจิทัลร่วงหนัก หลังทรัมป์ประกาศยกระดับมาตรการภาษี จุดกระแสความหวาดกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก พร้อมการเทขายของนักลงทุนครั้งใหญ่
ตลาดทั่วโลกร่วงอย่างหนักในวันจันทร์ หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ยืนยันว่าจะไม่ยอมอ่อนข้อในเรื่องภาษี ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงขึ้น ดัชนีหุ้นสหรัฐล่วงหน้าชี้ว่า ตลาดอาจร่วงลง 3–4% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงทรุดตัวกว่า 10% ตลาดหุ้นในยุโรปและเอเชียก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน ขณะที่นักลงทุนแห่ถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกร่วงลง
โกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็น 45% โดยให้เหตุผลว่าภาษีใหม่ที่สูงขึ้นของทรัมป์สร้างแรงกดดันทางการเงินอย่างมาก ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงยืนยันว่ามาตรการภาษีของเขาช่วยสร้างรายได้หลายพันล้านดอลลาร์ และจำเป็นต้องใช้เพื่อลดปัญหาขาดดุลการค้ากับประเทศอย่างจีนและสหภาพยุโรป ขณะเดียวกัน จีนก็ตอบโต้กลับด้วยมาตรการภาษี 34% เช่นกัน
ความปั่นป่วนในตลาดลบมูลค่ากว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ ออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ภายในเวลาเพียงสองวัน กลายเป็นสัปดาห์ที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตโควิดปี 2020 แม้แต่นักลงทุนที่สนับสนุนทรัมป์อย่าง บิล แอคแมน และ สแตนลีย์ ดรักเคนมิลเลอร์ ก็ยังออกมาวิจารณ์กลยุทธ์ของเขา พร้อมเตือนว่าอาจสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
พันธบัตรซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยพุ่งสูง ขณะที่ สินค้าโภคภัณฑ์และคริปโตร่วงหนัก ตลาดคริปโตทรุดตามตลาดหลัก โดย บิตคอยน์ร่วงลงแตะ 75,000 ดอลลาร์ และเหรียญใหญ่ตัวอื่นๆ ก็ขาดทุนเป็นตัวเลขกว่าสองหลัก การเทขายในวงกว้างนี้สะท้อนว่านักลงทุนกำลังถอนตัวจากสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหมด รวมถึงคริปโต ด้วยความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสงครามการค้าและการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
Credit : coinpaprika.com
Facebook Comments