ล่าสุด BlackRock ยักษ์ใหญ่ด้านการลงทุนของโลกได้ทุ่มเงิน 513 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลงใน Ethereum ภายใน 6 วัน โดยใช้การลงทุนผ่าน iShares Ethereum Trust (ETHA) ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้สามารถลงทุนใน ETH โดยไม่ต้องถือเหรียญโดยตรง ถือเป็นการขยับตัวใหญ่ที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงมากนัก แต่คำถามคือ ทำไมถึงยังมีความกลัวในตลาดคริปโต ถึงแม้ว่าบริษัทระดับนี้กำลังลงทุนใน ETH?
BlackRock กับ Ethereum
ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2024 ที่ผ่านมา BlackRock ได้เติมเงินเข้า ETHA อยู่ที่เฉลี่ย 85.5 ล้านดอลลาร์ต่อวัน และไม่ใช่แค่ Ethereum เท่านั้น BlackRock ยังได้เล่นกับ Bitcoin ผ่าน Bitcoin ETF ที่ได้รับการอนุมัติในต้นปี 2024 และได้ผลตอบรับที่ดีอย่างมหาศาล โดยกองทุน Bitcoin ETF (IBIT) ของ BlackRock ได้รับการสนับสนุนจากการไหลของเงินกว่า 18,000 ล้านดอลลาร์ภายในเวลาแค่ 6 เดือน

แต่การลงทุนครั้งล่าสุดนี้ใน Ethereum มันชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นระยะยาวที่ BlackRock มองว่า Ethereum จะกลายเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญ และสามารถสร้างผลตอบแทนในอนาคต โดยเฉพาะหลังจากการอัปเกรด Ethereum 2.0 ที่อาจทำให้ Ethereum มีบทบาทมากขึ้นในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล
แล้วทำไมคนยังกลัว?
แม้ว่าการลงทุนของ BlackRock จะช่วยลดความผันผวนของ ETH ลงไปเยอะ (จาก 5.8% เหลือ 3.2%) แต่ตลาดยังคงมีความกลัวอยู่ โดยเฉพาะจากปัจจัยเรื่องกฎระเบียบและภาษีของคริปโตในสหรัฐอเมริกา ซึ่งยังไม่แน่ชัดเท่าไหร่ นอกจากนี้ อินดิเคเตอร์ “ความกลัว” ในตลาดยังคงอยู่ในโซนต่ำ (Fear) ในขณะที่ Bitcoin กลับมีความรู้สึกเป็นกลาง (Neutral) บ่งบอกว่า Ethereum อาจจะยังไม่ได้รับความเชื่อมั่นเต็มที่จากนักลงทุนรายย่อยเท่ากับ Bitcoin
กลยุทธ์นี้ของ BlackRock คืออะไร?
การลงทุนของ BlackRock นี้ถือเป็นการวางแผนระยะยาว โดยมองว่า Ethereum จะกลายเป็นสินทรัพย์ที่สามารถทำผลตอบแทนได้ดีในอนาคต ด้วยการที่ Ethereum จะถูกใช้ในหลายๆ ด้าน เช่น การสร้าง Yield หรือการเป็นส่วนหนึ่งในตลาด Tokenized ที่คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 10 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 แม้ว่าตลาดคริปโตจะยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่นักลงทุนระดับสถาบันอย่าง BlackRock ก็ยังมองไปข้างหน้าในระยะยาว.
แต่สำหรับนักลงทุนรายย่อย ยังมีความกังวลอยู่มาก เพราะเรื่องกฎระเบียบที่ยังไม่แน่นอน รวมถึงการที่ตลาดคริปโตยังคงผันผวนและไม่น่าไว้วางใจในบางช่วงเวลา
credit : thecoinrepublic pic : thairath
Facebook Comments