ราคา Bitcoin (BTC) ร่วงลง 7% และต่ำกว่าระดับ 52,900 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบกว่าหนึ่งเดือน การลดลงอย่างกะทันหันนี้ทำให้เกิดคำถามในหมู่นักลงทุนและผู้ที่ชื่นชอบสกุลเงินดิจิทัล มีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาลดลงอย่างรวดเร็วนี้ และการทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้ถือเป็นสิ่งสำคัญในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของ Bitcoin
สาเหตุหลักประการหนึ่งที่ทำให้ราคา Bitcoin ร่วงลงคือการเปิดเผยข้อมูลตลาดแรงงานของสหรัฐฯ
ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเผยให้เห็นว่าสหรัฐฯ เพิ่มตำแหน่งงานเพียง 142,000 ตำแหน่ง ซึ่งต่ำกว่าที่วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ นักลงทุนยังกังวลเนื่องจากอัตราการว่างงานยังคงอยู่ที่ 4.2%
ข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอโดยทั่วไปมักเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัว ส่งผลให้ผู้ลงทุนเกิดความระมัดระวังมากขึ้น ซึ่งทำให้ Bitcoin มีความผันผวนมากขึ้น และส่งผลให้ราคาลดลงพร้อมกับสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ
ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้ราคา Bitcoin ลดลงคือก ระแสเงินไหลที่ออกจากกองทุน Bitcoin ETF จำนวนมาก
ข้อมูลจาก Lookonchain แสดงให้เห็นว่ามีการถอนเงินออกจากกองทุน Bitcoin จำนวน 10 กองทุนมากกว่า 227.82 ล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 6 กันยายน โดย FBTC ของ Fidelity เป็นผู้นำของกระแสเงินไหลออก
แม้จะมีการขายครั้งใหญ่เหล่านี้ แต่ BlackRock ก็ยังคงยืนหยัดเป็นกลางโดยไม่ซื้อหรือขาย Bitcoin
นักขุด Bitcoin อาจถูกบังคับให้ขาย
นักขุด Bitcoin ต่างสะสม BTC มาตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาลดลงต่ำกว่า 60,000 ดอลลาร์ ก็เริ่มมีความกลัวเพิ่มขึ้นว่านักขุดอาจถูกบังคับให้ขาย BTC
ในขณะเดียวกัน ข้อมูลจาก Glassnode แสดงให้เห็นว่าแรงกดดันในการขายจากนักขุดอาจเพิ่มสูงขึ้น หากแนวโน้มขาลงยังคงดำเนินต่อไป ส่งผลให้ตลาดตึงเครียด
ความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มมากขึ้น
ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ ที่อาจเกิดขึ้นได้นั้นก็มีส่วนทำให้ราคาลดลงด้วยเช่นกัน โดยนายออสตัน กูลส์บี ประธานเฟดสาขาชิคาโก ได้กล่าวเป็นนัยๆ เมื่อไม่นานนี้ว่าอาจเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งทำให้บรรดานักลงทุนเกิดความตระหนก
การ Liquidate ครั้งใหญ่ในตลาด
นอกจากนี้ ตลาดคริปโตยังเผชิญกับคลื่นการบังคับปิดสัญญาฟิวเจอรส์ครั้งใหญ่ โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเทรดเดอร์ 85,882 รายถูก บังคับปิดสัญญา คิดเป็นมูลค่า 314.71 ล้านดอลลาร์ เฉพาะบิตคอยน์มีการ บังคับปิดสัญญา 123.40 ล้านดอลลาร์ โดยมี Long position คิดเป็นมูลค่ากว่า 83.8 ล้านดอลลาร์
การบังคับปิดสัญญาฟิวเจอรส์ครั้งใหญ่ ส่งผลให้ดัชนีความกลัวและความโลภของ Bitcoin ลดลงเหลือ 23% บ่งบอกถึงความกลัวอย่างรุนแรงในตลาด ผู้ซื้อขายต่างสงสัยว่าการลดลงครั้งนี้เป็นการปรับฐานชั่วคราวหรือเป็นการตกต่ำของตลาดที่รุนแรงกว่านั้น
Facebook Comments