หัวข้อที่ใหญ่ที่สุดของการอภิปรายเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซี่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาคือการเคลื่อนไหวของสหรัฐอเมริกาและท่าทีเชิงลบที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันกับ Bitcoin และ คริปโตเคอเรนซี่ นับตั้งแต่ Facebook Libra เข้ามาขย่าวงการ นักการเมืองในสหรัฐอเมริกาหรือแม้แต่ประธานาธิบดีเองก็เริ่มออกมาพูดเกี่ยวกับเรื่องการโจมตีสกุลเงินคริปโต เนื่องจากมีการใช้งานที่ผิดกฎหมายในทางอาญา เช่น ransomware, cybercrime, และการฟอกเงิน
รายงานจากองค์การสหประชาชาติว่าด้วยเรื่องการพัฒนาอาวุธทำลายล้างขั้นสูง (นิวเคลียร์) ของเกาหลีเหนือ แสดงให้เห็นว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าเกาหลีเหนือกำลังได้เริ่มการระดมทุนโปรเจคที่ได้แหล่งเงินทุนมาจากการโจมตีทางไซเบอร์กับกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี่ ตามรายงานดังกล่าวมีแนวโน้มเป็นไปได้ว่า Bitcoin และสกุลเงินคริปโตตัวอื่น ๆ อาจจะถูกใช้ในก่ออาชกรรมเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
ความหวาดกลัวของสหรัฐอเมริกา
ไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐอเมริกาได้ทวีตเกี่ยวกับ ความไม่พอใจของเขาที่มีต่อ Bitcoin , สกุลเงินคริปโต และ Libra ของ Facebook หลังจากนั้นผู้กำหนดกฏระเบียบเกือบทุกรายในสหรัฐก็เริ่มจับตาดูสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ Steven Mnuchin รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซี่ว่า ” มันจะถูกนำไปใช้เพื่อสนับสนุนกิจกรรมที่ผิดกฎหมายมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ เช่นอาชญากรรมบนโลกไซเบอร์ , การหลบเลี่ยงภาษี และการกรรโชกทรัพย์ โดยสิ่งที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาต้องการในตอนนี้ก็คือหลักฐานที่ชัดเจนเพื่อทำลายสินทรัพย์ดิจิทัลและหลักฐานนั้นได้ถูกค้นพบแล้ว ต้องขอบคุณรายงานใหม่จากสหประชาชาติที่อ้างว่าเกาหลีเหนือใช้คริปโตเคอเรนซี่เช่น Bitcoin ที่พวกเขาขโมยมาจากกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตในโลกไซเบอร์เพื่อสร้างมูลค่ามากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ในโปรเจค “ นิวเคลียร์และขีปนาวุธ”
รายงานระบุว่าเปียงยาง “ ใช้เทคโนโลยีบนโลกไซเบอร์เข้าโจมตีสถาบันการเงินและกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี่ เพื่อขโมยเงินทุน ” เกาหลีเหนือถูกเชื่อมโยงกับการโจมตีกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี่ในเกาหลีใต้ ตามรายงานจากสหประชาชาติพบว่าเกาหลีเหนือประสบความสำเร็จอย่างมากในการระดมทุนโปรเจคที่มีมูลค่ากว่า 2 พันล้านดอลลาร์
ความตึงเครียดในสหรัฐอเมริกาเพิ่มสูงขึ้นในแง่ของการใช้คริปโตเคอเรนซี่และนโยบายระหว่างประเทศ ท่ามกลางการโต้แย้งมากมายที่กล่าวว่า มันก็สามารถทำได้กับสกุลเงิน fiat ได้เช่นเดียวกัน – อย่างไรก็ตามมันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคริปโตเคอเรนซี่นั้นง่ายต่อการถูกขโมย , เคลื่อนย้าย และฟอกเงินมากกว่าสกุลเงินที่ออกโดยรัฐบาล
ที่มา : newsbtc.com
Facebook Comments